เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด
"เขาเป็นนักเตะในทีม บุคลิกยอดเยี่ยม เรามีความสัมพันธ์ที่ดีและสิ่งต่างๆระหว่างเรากำลังไปได้สวย" เส้นทางนักเตะของ มารูยาน เฟลไลนี่ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันเป็นขวากหนามและมีอุปสรรคมากมายที่ขวางกั้นเขามาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ค่าตัว 27.5 ล้านปอนด์ พร้อมกับแบกความหวังไว้บนสองบ่า แฟนบอลต่างคิดว่าเขาจะเข้ามาสร้างแรงกระเพื่อมในทีมให้เดินหน้าไปในทิศทางที่ดี แต่กลับไม่ใช่แบบนั้น กองกลางหัวฟูเจอกับเรื่องยากลำบากในการรีดฟอร์มออกมา บ่อยครั้งที่เขาไม่สามารถรีดเอาศักยภาพที่มีออกมาใช้งานให้ได้เต็มที่เหมือนอย่างที่เคยทำได้ตอนอยู่เอฟเวอร์ตันใช่...ที่นี่ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ความคาดหวังมันสูงกว่า การย้ายมายังโรงละครแห่งความฝันมันจะมาพร้อมแรงกดดันมหาศาล และสายตาที่จับจ้อง จับผิด หากพลาดคุณจะถูกเหยียบ แต่หากทำได้ดีคำเยินยอต่างๆจะเข้ามา นี่คือวิธีของสโมสรที่ต้องการความสำเร็จแบบปัจจุบันทันด่วน ในวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆต้องแลกมาด้วยความสำเร็จจับต้องได้ หากนอกเหนือไปกว่านั้นคือความล้มเหลว ยิ่งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด mutexed.com ที่สถาปนาตนเองมาเป็นยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ยิ่งต้องรักษามาตรฐานให้ได้ บวกกับมันเป็นช่วงที่ทีมกำลังเปลี่ยนถ่ายทำให้อะไรหลายๆอย่างไม่เข้าที่เข้าทาง ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมไปถึง เฟลไลนี่ เส้นทางของเขาในสีเสื้อปิศาจแดงไม่ค่อยสวยงามนักตอนย้ายมาใหม่ๆรวมไปถึงการทำงานในช่วง 1-2 ปีแรก ที่ต้องบอกว่าโดนวิจารณ์อย่างหนัก แฟนบอลพุ่งเป้าไปที่เขา โดยเฉพาะผลงานในสนามที่บางครั้งถูกมองว่าเป็นแพะ และคนที่ทำให้ทีมเสียแต้ม (แบบโง่ๆ) หนักข้อถึงขั้นโดนโห่ นั่นคือสิ่งที่ลดทอนกำลังใจของมารูยาน เฟลไลนี่ เป็นอย่างยิ่ง แต่วันเวลาผ่านไปกองกลางที่มีหัวอันฟูฟ่องเป็นเอกลักษณ์ยังคงทำหน้าที่รับใช้ปิศาจแดงแห่งแมนเชสเตอร์ต่อไป แม้จะมีเสียงบ่นเสียงด่าเสียงต่อว่า กระนั้นงานก็คืองาน จวบจนกระทั่งชายที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ เดินเข้ามายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อรับงานเป็นผู้จัดการทีมเมฆหมอกของเฟลไลนี่เริ่มหายไปทีละน้อย หลังเข้ามาทำงานไม่นานมูรินโญ่ต่อสายตรงไปยังเฟลไลนี่พร้อมกับพูดคุยเป็นการสั้นๆส่วนตัว แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นานแต่คำพูดหนึ่งที่กุนซือชาวโปรตุเกสบอกกับกองกลางทีมชาติเบลเยียมคือ 'แกจะไม่โดนขายทิ้งแน่นอน' นั่นคือสิ่งที่มูรินโญ่สัญญากับเฟลไลนี่เอาไว้ พร้อมกับพยายามที่จะเรียกความมั่นใจของนักเตะกลับมา ทั้งยังพยายามปกป้องเด็กหนุ่มคนนี้เสมอมายามที่บรรดานักข่าวพยายามเพ่งเล็งและถามถึงฟอร์มการเล่น
ฤดูกาลที่ผ่านมาเฟลไลนี่ค่อยๆได้รับโอกาสจากมูรินโญ่ ความเชื่อใจซึ่งกันและกันของทั้งสองทีมค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นผลงานในสนามที่ดีวันดีคืน มันอาจจะไม่ดีแบบปัจจุบันทันด่วน แต่สัญญาณต่างๆกลับส่งออกมาในทิศทางที่ดี
แรงกดดันยังคงมีแต่ด้วยบุคลิกที่ยอดเยี่ยมของทั้งกุนซือและนักเตะทำให้พวกเขาหลุดพ้นสถานการณ์นี่ออกมาได้ (แม้จะยังไม่สุด) แฟนผีแดงคงจำเหตุการณ์ตอนที่เฟลไลนี่พังประตูใส่ ฮัลล์ ซิตี้ ในรายการ อีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศฤดูกาลก่อนได้ดีสิ่งแรกที่กองกลางชาวเบลเยียมทำคือการวิ่งไปที่ริมสนามเพื่อสวมกอดกับ โชเซ่ มูรินโญ่ นั่นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ต่างพยายามผลักดันซึ่งกันและกันอยู่เสมอ มูรินโญ่ พยายามให้โอกาสนักเตะและพูดเสมอว่าเฟลไลนี่เป็นนักเตะมีของดีในตัวและสมควรที่จะอยู่ในทีมของเขาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ส่วนเฟลไลนี่พยายามที่จะตอบแทนโอกาสที่เจ้านายให้มาด้วยผลงานในสนาม ซึ่งการทำประตูดังกล่าวเหมือนกับการปลดล็อกความอัดอั้นที่เก็บสะสมไว้เป็นเวลานาน มันอาจจะเป็นแค่ประตูหนึ่งประตูเท่านั้น แต่สำหรับเฟลไลนี่มันมีความหมายมากมายในนั้น "ผมคิดว่าเขาต้องแสดงให้เห็นว่า เขาทราบดีถึงแรงสนับสนุนที่ผมมีให้กับเขา" "มันอาจจะเป็นเช่นนั้นเพราะตอนที่ผมส่งเขาลงไปผมบอกว่าใหเขาประตูที่สองให้ได้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน" "แต่มันเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่ทำประตูต่อหน้าแฟนบอลได้ และการทำประตูที่สองให้กับทีมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วย" นี่คือคำพูดหลังจบเกม (เจอ ฮัลล์) ของมูรินโญ่ที่มีต่อเฟลไลนี่ อย่างไรก็ตามบรรดาสื่ออังกฤษยังคงคอยเสาะถามถึงเรื่องราวเฟลไลนี่อยู่เสมอ คงเป็นเพราะมันเป็นเรื่องราวที่สามารถนำไปขยายต่อและอีกอย่างมันสามารถไปสะกิดต่อมรำคาญของมูรินโญ่ได้เป็นอย่างดี แต่มูรินโญ่สามารถรับมือกับคำถามเหล่านั้นได้ดีและใจเย็นขึ้นมาก ซึ่งอีกหนึ่งประการสำคัญคือผลงานของเฟลไลนี่ที่ดีวันคืนทำให้มูรินโญ่ไม่ต้องตอบอะไรมาก เพราะสิ่งที่เห็นในสนามมันชัดเจนอยู่แล้ว "ผลงานที่เฟลไลนี่มอบให้กับทีมไม่ว่าจะตัวจริงหรือตัวสำรองเป็นเรื่องดีเสมอ เขาเป็นนักเตะคนสำคัญของผม" "ครั้งสุดท้ายที่ผลงานของเขาไม่ดีคือต้องย้อนกลับไปตอนเริ่มต้นฤดูกาลก่อน แต่มันไม่ได้เลวร้ายอะไรเพราะมันเป็นความผิดพลาดโง่ๆที่เสียจุดโทษให้กับเอฟเวอร์ตันในช่วงท้ายเกม ที่ กูดิสัน พาร์ค" ชัดเจนในคำตอบ ซึ่งนั่นคือบทสัมภาษณ์หลังจบเกมที่ ยูไนเต็ด ถล่มเอาชนะ บาเซิ่ล 3-0 มันยิ่งตอกย้ำซ้ำลงไปมากขึ้นกับผลงานนัดล่าสุดที่เปิดรังเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 ใช่ พาเลซ อาจจะไม่มีอะไรมาสู้ แต่หากมองที่รายละเอียดหรือผลงานของนักเตะปิศาจแดง นั่นคือสัญญาณที่เดินไปในทิศทางที่ดี จากเป้าโจมตีของแฟนบอล มาวันนี้เฟลไลนี่สามารถพลิกกระแสดังกล่าวให้แฟนบอลกลับมาหลงรักเขาได้อีกครั้ง อย่างที่เรียนไปนั่นคือผลประโยชน์ต่างตอบแทนของ มูรินโญ่ และ เฟลไลนี่ ซึ่งมีอีกฝ่ายที่ได้ประโยชน์เต็มๆคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เรื่องนี้กุนซือโปรตุกีสสมควรได้รับเครดิตไปเต็มๆเหมือนกับที่ แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ กล่าวไว้หลังจบเกมเมือวันเสาร์ที่ผ่านว่ามูรินโญ่คือคนที่ปลุกให้เฟลไลนี่มีชีวิตอีกครั้ง"ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้มูรินโญ่"
"เขาเป็นผู้จัดการที่จะสามารถจัดการกับนักเตะที่ถูกมองว่าหมดอนาคตในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาจะเข้าไปเพิ่มความมั่นใจโดยเฉพาะเฟลไลนี่ที่ตอนนี้มีรังสีคุกคามอย่างมาก"... วันเวลาผ่านไป สิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมายกับมารูยาน เฟลไลนี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น