ปัญหานอกสนาม
ปี 2016 ลอฟเรน หลุดโผทีมชาติโครเอเชีย ชุดลุยฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เนื่องจากมีปัญหานอกสนามกับ อันเต้ คาซิช กุนซือของทีม แถมต่อมา เดอะ ซัน แทบลอยด์อังกฤษ ยังมาแฉอีกว่า
สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาไม่ได้ไปเล่นรายการนั้น คือ อนิต้า ภรรยาที่คบกันมาตั้งแต่อายุ 16 แอบไปคบชู้กับ ดาริโอ ทอร์บิช เพื่อนสนิทของตัวเอง
ทั้งคู่หนีไปอยู่กินด้วยกัน และ อนิต้า ก็พยายามหาทางหย่ากับ ลอฟเรน เนื่องจากทนกับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว แต่สุดท้าย อนิต้า ก็กลับมาอยู่กับ ลอฟเรน ที่อังกฤษ อีกครั้ง หลังจากปรับความเข้าใจกัน
เรื่องร้ายๆ ยังมาอยู่เรื่อยๆ ลอฟเรนตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับกลุ่มมาเฟียระดับหัวแถวของประเทศ รวมถึงถูกผู้ไม่หวังดีวางแก๊สนอนหลับ บุกปล้นทรัพย์สิน ที่อพาร์ตเมนต์หรูในโครเอเชีย
“นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดของชีวิต ผมเกรงว่าพวกเขาจะจับตัวลูกๆ ของผม วันที่เกิดเหตุตรงกับวันเกิดของลูกชาย และเรื่องนี้ก็ยังดำเนินต่อไป”
จิตใจของ ลอฟเรน ช่วงนั้นไม่ต่างอะไรกับคนไร้สติ ขาดสมาธิ จนส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนาม เดือนตุลาคม ปี 2017 เกมกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่เวมบลี่ย์ จุดเริ่มต้นฝันร้ายที่ยากจะลืมของ ลอฟเรน
เขาต้องทนต่อความอับอายที่โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่เกมผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง แล้วจากนั้นในโลกโซเชี่ยล แฟนบอลต่างรุมโจมตี ไม่ว่าจะทั้งการด่าทอ ด้วยถ้อยคำ หรือพิมพ์ข้อความเชิงเหยียดหยาม ลอฟเรน ไม่สามารถรับมือกับกระแสที่ถาโถมมาได้จึงต้องปิดบัญชีอินสตาแกรมของตัวเองลง
10 วันต่อมา บ้านของเขาที่แถบ อัลเลอร์ตัน ถูกหัวขโมยขึ้นบ้าน แต่เคราะห์ดีที่โจรเหล่านั้นมือเปล่ากลับไป เพราะมีคนมาช่วยไว้ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำนักสำหรับ ภรรยา และลูกอีกสองคน
ถัดจากนั้นเดือนเศษๆ จังหวะไปผลักใส่ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน จนเสียลูกจุดโทษ ทำให้ ลิเวอร์พูล เสียสองคะแนน ในเกมเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ และแน่นอน ลอฟเรน คือคนที่ถูกโจมตีในเรื่องทำผิดพลาดอีกครั้ง
ลอฟเรน กลับมารวบรวมสติ นึกถึงคำพูดของเจ้านายที่เคยบอกให้เริ่มต้นใหม่ ลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีต 7 เดือนหลังจากค่ำคืนอันมืดมน ถึงแม้จะพ่ายต่อ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 แต่ ลอฟเรน เป็นผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด
และในศึกฟุตบอลโลก เขาพา โครเอเชีย เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก พร้อมกับฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมกับทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนเกมเขากระตุ้นตัวเองด้วยการบอกว่าไม่เคยหวั่นเลยที่จะต้องเจอกับ แฮร์รี่ เคน
"เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดใน พรีเมียร์ลีก เขาสมควรได้รับเครดิตทุกอย่างที่เขาได้รับตลอดช่วงที่ผ่านมา ในหลายฤดูกาลเขาทำได้มากกว่า 25 ประตูต่อซีซั่น และเขาก็เป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดของโลก แต่ผมชอบดวลกับกองหน้าแบบนั้นอยู่แล้ว และอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมเป็นหนึ่งในกองหลังชั้นยอด"
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ ลอฟเรน อีกครั้งหลังคำพูดที่เจ้าตัวเอ่ยไว้ว่าตัวเองคือกองหลังที่ดีที่สุดในโลก "ผมคิดว่าผู้คนควรจะจดจำผมในฐานะกองหลังที่ดีที่สุดในโลกนะ" ด้าน คล็อปป์ ที่ได้ฟังคำพูดนั้นก็ตอบกลับแบบขำๆ ว่า "มันคงจะดีกว่านี้หากคนที่พูดไม่ใช่ เดยัน แต่จริงๆ ที่เขาพูดก็ถูกแล้วนะ"
จริงอยู่ว่าในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้เก่งเหมือนที่ตัวเองคิด แต่เขาก็ไม่ได้แย่เหมือนที่ทุกคนรุมด่า เขาเก่งกว่าที่หลายคนคิดเยอะ การมีคนที่เล่นได้นิ่งอย่าง ฟาน ไดค์ เป็นคู่หูมันถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเขาได้อย่างมาก
ฤดูกาลก่อน อาการบาดเจ็บแฮมสตริงทำให้เขาไม่สามารถกลับมายึดตัวจริงในช่วงครึ่งซีซั่นหลังได้ แล้วดูเหมือนอนาคตกับ ลิเวอร์พูล ค่อยๆ หมดไป
ความมั่นใจของ ลอฟเรน ที่ดูเหมือนจะล้นเกินไปทำให้แฟนบอลบางคนไม่พอใจ แต่ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านั้นเขาก็โดนด่าเยอะมากๆ จนคุณคงโทษเขาไม่ได้เลยที่กล้าออกมาพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมแบบนั้นในตอนที่หลายอย่างมันเป็นไปได้ด้วยดี
ฟอร์มการเล่นในซีซั่นนี้ น่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ดีว่าเขาเก่งมากแค่ไหน? ความมั่นใจในตัวเองแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาอยู่จุดนี้และผลงานที่ออกมาก็ทำให้หลายคนเริ่มยอมรับ
การกลับมาจากขอบเหวครั้งนี้ ลอฟเรน ลั่นวาจาไว้ว่า "กุญแจสำคัญคือความอดทน มันมีทั้งผู้เล่นที่อดทนและไม่อดทนทั้งนั้นแหละ ผมกำลังต่อสู้เพื่อให้ได้กลับมาลงเล่น มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมและคุณก็ต้องยอมรับมันด้วย"
"ผมมันนักสู้อยู่แล้ว!" กับบางคน คำพูดที่ดูเว่อวังฟังดูแล้วน่าหมั่นไส้ มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาคนนั้นสามารถยืนหยัดได้และพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ หากคุณไม่มีใครที่คอยให้กำลังใจ ขอให้นึกไว้ว่า กำลังใจที่ดีที่สุดมันมาจากจิตใจของเราเอง
สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาไม่ได้ไปเล่นรายการนั้น คือ อนิต้า ภรรยาที่คบกันมาตั้งแต่อายุ 16 แอบไปคบชู้กับ ดาริโอ ทอร์บิช เพื่อนสนิทของตัวเอง
ทั้งคู่หนีไปอยู่กินด้วยกัน และ อนิต้า ก็พยายามหาทางหย่ากับ ลอฟเรน เนื่องจากทนกับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว แต่สุดท้าย อนิต้า ก็กลับมาอยู่กับ ลอฟเรน ที่อังกฤษ อีกครั้ง หลังจากปรับความเข้าใจกัน
เรื่องร้ายๆ ยังมาอยู่เรื่อยๆ ลอฟเรนตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับกลุ่มมาเฟียระดับหัวแถวของประเทศ รวมถึงถูกผู้ไม่หวังดีวางแก๊สนอนหลับ บุกปล้นทรัพย์สิน ที่อพาร์ตเมนต์หรูในโครเอเชีย
“นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดของชีวิต ผมเกรงว่าพวกเขาจะจับตัวลูกๆ ของผม วันที่เกิดเหตุตรงกับวันเกิดของลูกชาย และเรื่องนี้ก็ยังดำเนินต่อไป”
จิตใจของ ลอฟเรน ช่วงนั้นไม่ต่างอะไรกับคนไร้สติ ขาดสมาธิ จนส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนาม เดือนตุลาคม ปี 2017 เกมกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่เวมบลี่ย์ จุดเริ่มต้นฝันร้ายที่ยากจะลืมของ ลอฟเรน
เขาต้องทนต่อความอับอายที่โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่เกมผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง แล้วจากนั้นในโลกโซเชี่ยล แฟนบอลต่างรุมโจมตี ไม่ว่าจะทั้งการด่าทอ ด้วยถ้อยคำ หรือพิมพ์ข้อความเชิงเหยียดหยาม ลอฟเรน ไม่สามารถรับมือกับกระแสที่ถาโถมมาได้จึงต้องปิดบัญชีอินสตาแกรมของตัวเองลง
10 วันต่อมา บ้านของเขาที่แถบ อัลเลอร์ตัน ถูกหัวขโมยขึ้นบ้าน แต่เคราะห์ดีที่โจรเหล่านั้นมือเปล่ากลับไป เพราะมีคนมาช่วยไว้ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำนักสำหรับ ภรรยา และลูกอีกสองคน
ถัดจากนั้นเดือนเศษๆ จังหวะไปผลักใส่ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน จนเสียลูกจุดโทษ ทำให้ ลิเวอร์พูล เสียสองคะแนน ในเกมเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ และแน่นอน ลอฟเรน คือคนที่ถูกโจมตีในเรื่องทำผิดพลาดอีกครั้ง
ลอฟเรน กลับมารวบรวมสติ นึกถึงคำพูดของเจ้านายที่เคยบอกให้เริ่มต้นใหม่ ลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีต 7 เดือนหลังจากค่ำคืนอันมืดมน ถึงแม้จะพ่ายต่อ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 แต่ ลอฟเรน เป็นผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด
และในศึกฟุตบอลโลก เขาพา โครเอเชีย เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก พร้อมกับฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมกับทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนเกมเขากระตุ้นตัวเองด้วยการบอกว่าไม่เคยหวั่นเลยที่จะต้องเจอกับ แฮร์รี่ เคน
"เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดใน พรีเมียร์ลีก เขาสมควรได้รับเครดิตทุกอย่างที่เขาได้รับตลอดช่วงที่ผ่านมา ในหลายฤดูกาลเขาทำได้มากกว่า 25 ประตูต่อซีซั่น และเขาก็เป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดของโลก แต่ผมชอบดวลกับกองหน้าแบบนั้นอยู่แล้ว และอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมเป็นหนึ่งในกองหลังชั้นยอด"
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ ลอฟเรน อีกครั้งหลังคำพูดที่เจ้าตัวเอ่ยไว้ว่าตัวเองคือกองหลังที่ดีที่สุดในโลก "ผมคิดว่าผู้คนควรจะจดจำผมในฐานะกองหลังที่ดีที่สุดในโลกนะ" ด้าน คล็อปป์ ที่ได้ฟังคำพูดนั้นก็ตอบกลับแบบขำๆ ว่า "มันคงจะดีกว่านี้หากคนที่พูดไม่ใช่ เดยัน แต่จริงๆ ที่เขาพูดก็ถูกแล้วนะ"
จริงอยู่ว่าในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้เก่งเหมือนที่ตัวเองคิด แต่เขาก็ไม่ได้แย่เหมือนที่ทุกคนรุมด่า เขาเก่งกว่าที่หลายคนคิดเยอะ การมีคนที่เล่นได้นิ่งอย่าง ฟาน ไดค์ เป็นคู่หูมันถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเขาได้อย่างมาก
ฤดูกาลก่อน อาการบาดเจ็บแฮมสตริงทำให้เขาไม่สามารถกลับมายึดตัวจริงในช่วงครึ่งซีซั่นหลังได้ แล้วดูเหมือนอนาคตกับ ลิเวอร์พูล ค่อยๆ หมดไป
ความมั่นใจของ ลอฟเรน ที่ดูเหมือนจะล้นเกินไปทำให้แฟนบอลบางคนไม่พอใจ แต่ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านั้นเขาก็โดนด่าเยอะมากๆ จนคุณคงโทษเขาไม่ได้เลยที่กล้าออกมาพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมแบบนั้นในตอนที่หลายอย่างมันเป็นไปได้ด้วยดี
ฟอร์มการเล่นในซีซั่นนี้ น่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ดีว่าเขาเก่งมากแค่ไหน? ความมั่นใจในตัวเองแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาอยู่จุดนี้และผลงานที่ออกมาก็ทำให้หลายคนเริ่มยอมรับ
การกลับมาจากขอบเหวครั้งนี้ ลอฟเรน ลั่นวาจาไว้ว่า "กุญแจสำคัญคือความอดทน มันมีทั้งผู้เล่นที่อดทนและไม่อดทนทั้งนั้นแหละ ผมกำลังต่อสู้เพื่อให้ได้กลับมาลงเล่น มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมและคุณก็ต้องยอมรับมันด้วย"
"ผมมันนักสู้อยู่แล้ว!" กับบางคน คำพูดที่ดูเว่อวังฟังดูแล้วน่าหมั่นไส้ มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาคนนั้นสามารถยืนหยัดได้และพร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ หากคุณไม่มีใครที่คอยให้กำลังใจ ขอให้นึกไว้ว่า กำลังใจที่ดีที่สุดมันมาจากจิตใจของเราเอง
ติดตามข่าวสารได้ที่ microsym.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น