ใช้แผนการเล่นแบบ "รถบัส"
พุทโธ่...ขนาดได้ลูกโทษที่จุดโทษแท้ๆ พวกพี่แกยังยิงไม่เข้าเลยครับคุณ อันที่จริงก็ใช่ว่ารถบัสของ คริสตัล พาเลซ จะมีความเหนียวแน่นหรือแข็งแกร่งอะไรมากมาย ปัญหาอยู่ที่เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด มากกว่าที่ไม่มีประสิทธิ์ภาพเพียงพอ
ขณะที่ผู้เล่นพันธุ์อสูรพยายามต่อบอลทำชิ่งกันหลายจังหวะพลางนวดและคลึงขึงเกมรุกเป็นระลอก ผู้มาเยือนกลับได้ประตูง่ายๆ จากจังหวะหวดตูมเดียวของผู้เป็นนายทวาร ก่อนมีผู้เล่นชิงจังหวะโหม่งเช็ดแล้วมีผู้เล่นอีกตัวสอดตามขึ้นไปสับไกยิง
ประตูที่ 2 ก็ดันเคลียร์กันไม่ขาดเองจนลูกฟุตบอลกระดอนไปกระดอนมาแล้วปลิ้นมาเข้าทาง พาทริค ฟาน อาน โฮลท์ ที่หวดมุมแคบเปรี้ยงเดียวทะลักหลุดวงแขนของ ดา บิด เด เคอา เข้าไปเป็นประตู
ประสิทธิ์ภาพในเกมรุกต่ำไม่พอ เกมรับยังมาเสียง่ายๆ ทั้ง 2 ประตู กุ๊กไก่ก็เช่นกัน พวกเขาเหนือกว่าผู้มาเยือนจากแดนอีสานทุกเหลี่ยมมุม
กุนซือสาลิกาดงอย่าง สตีฟ บรู๊ซ จึงต้องติดตั้งแผนรถบัสให้ลูกทีมลงไปกองรวมกันอยู่ในกรอบเขตโทษ เพื่อปิดพื้นที่ให้แน่นหนามากที่สุด โดยอาศัยจังหวะสวนกลับตอบโต้แล้วดันโชคดีมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะบุกเพียงไม่กี่ครั้ง
หลังจากนั้นก็รถบัสเต็มรูปแบบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก แถมมีความหนังเหนียวอย่างแรง สุดท้ายก็คาบ้านไปตามระเบียบอีก 1 ทีม เพราะเจาะอย่างไรก็เจาะไม่เข้า แถม แฮร์รี่ เคน ถูกเอเลี่ยนลักพาตัวหายไปอีก
ทั้ง คริสตัล พาเลซ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ใช้เหลี่ยมเล่ห์และกลยุทธ์แบบ "พาร์ค เดอะ บัส" แล้วได้ผลการแข่งขันเหนือกว่าที่ตัวเองต้องการด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่เสมอก็น่าจะตามเป้าแล้ว - นี่เล่นควัก 3 แต้มกลับออกมาอย่างอุกอาจอีกด้วย
อาร์เซน่อล จัดเป็นอีกทีมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ใช้แผนการเล่นแบบ "รถบัส" สถิติเวลาไปเยือน แอนฟิลด์ บ่งชัดว่าถ้ามัวแต่ห่วงสวย หรือคิดว่าเกมรุกตัวเองเจ๋งแบบเต็มประดาแล้วทะลึ่งเปิดหน้าแลก บอกได้เลยครับว่า "บรรลัย"
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม อูไน เอเมรี่ จึงยอมฝืนธรรมชาติของลูกทีมพลางเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของตัวเองเป็น "อุลตร้าดีเฟนซีฟ" ซึ่งผมก็เรียกให้มันดูหรูไปอย่างนั้น แหละ เพราะความจริงมันก็คือการอุดประตูหรือ "รถบัส" ไม่ต่างกันเลย 5555
ฟูลแบ็ค 2 ข้างบีบเข้าไปรวมกับเซ็นเตอร์แบ็คข้างใน โดยยอมอนุญาตให้ฟูลแบ็ค 2 ข้างของ ลิเวอร์พูล เติมขึ้นมาครอสส์บอลเข้าไปในเขตโทษตามอัธยาศัย เพราะต้องการ ปิดพื้นที่หน้าประตูให้มิดชิดที่สุด
ผู้เล่นในแดนกลางก็ไม่ต้องวิ่งไล่บอลบดบี้ให้เสียพลังงานครับ ถอยลงมากองรวมกันกับแผงหลังพลางตั้งด่านสกัดอยู่หน้ากรอบเขตโทษดีกว่า
เจอวิธีการเล่นแบบนี้เข้าไป ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เจาะไม่เข้าและได้แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาบนความอึดอัดเหมือนกัน หลังจากตั้งรับอย่างหนาแน่น อาร์เซน่อล จะพยายามหาจังหวะสวนกลับด้วยการวางยาวจากแดนตัวเองให้กองหน้าที่มีความปราดเปรียวสูงอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ กับ ปีแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง พาบอลไปจู่โจม ทว่าความแตกต่างคือจังหวะของทีมไอ้ปืนใหญ่มันดันไม่ "โป๊ะเชะ" เหมือน คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิ่ล
ขณะที่ผู้เล่นพันธุ์อสูรพยายามต่อบอลทำชิ่งกันหลายจังหวะพลางนวดและคลึงขึงเกมรุกเป็นระลอก ผู้มาเยือนกลับได้ประตูง่ายๆ จากจังหวะหวดตูมเดียวของผู้เป็นนายทวาร ก่อนมีผู้เล่นชิงจังหวะโหม่งเช็ดแล้วมีผู้เล่นอีกตัวสอดตามขึ้นไปสับไกยิง
ประตูที่ 2 ก็ดันเคลียร์กันไม่ขาดเองจนลูกฟุตบอลกระดอนไปกระดอนมาแล้วปลิ้นมาเข้าทาง พาทริค ฟาน อาน โฮลท์ ที่หวดมุมแคบเปรี้ยงเดียวทะลักหลุดวงแขนของ ดา บิด เด เคอา เข้าไปเป็นประตู
ประสิทธิ์ภาพในเกมรุกต่ำไม่พอ เกมรับยังมาเสียง่ายๆ ทั้ง 2 ประตู กุ๊กไก่ก็เช่นกัน พวกเขาเหนือกว่าผู้มาเยือนจากแดนอีสานทุกเหลี่ยมมุม
กุนซือสาลิกาดงอย่าง สตีฟ บรู๊ซ จึงต้องติดตั้งแผนรถบัสให้ลูกทีมลงไปกองรวมกันอยู่ในกรอบเขตโทษ เพื่อปิดพื้นที่ให้แน่นหนามากที่สุด โดยอาศัยจังหวะสวนกลับตอบโต้แล้วดันโชคดีมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะบุกเพียงไม่กี่ครั้ง
หลังจากนั้นก็รถบัสเต็มรูปแบบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก แถมมีความหนังเหนียวอย่างแรง สุดท้ายก็คาบ้านไปตามระเบียบอีก 1 ทีม เพราะเจาะอย่างไรก็เจาะไม่เข้า แถม แฮร์รี่ เคน ถูกเอเลี่ยนลักพาตัวหายไปอีก
ทั้ง คริสตัล พาเลซ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ใช้เหลี่ยมเล่ห์และกลยุทธ์แบบ "พาร์ค เดอะ บัส" แล้วได้ผลการแข่งขันเหนือกว่าที่ตัวเองต้องการด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่เสมอก็น่าจะตามเป้าแล้ว - นี่เล่นควัก 3 แต้มกลับออกมาอย่างอุกอาจอีกด้วย
อาร์เซน่อล จัดเป็นอีกทีมในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ใช้แผนการเล่นแบบ "รถบัส" สถิติเวลาไปเยือน แอนฟิลด์ บ่งชัดว่าถ้ามัวแต่ห่วงสวย หรือคิดว่าเกมรุกตัวเองเจ๋งแบบเต็มประดาแล้วทะลึ่งเปิดหน้าแลก บอกได้เลยครับว่า "บรรลัย"
นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม อูไน เอเมรี่ จึงยอมฝืนธรรมชาติของลูกทีมพลางเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของตัวเองเป็น "อุลตร้าดีเฟนซีฟ" ซึ่งผมก็เรียกให้มันดูหรูไปอย่างนั้น แหละ เพราะความจริงมันก็คือการอุดประตูหรือ "รถบัส" ไม่ต่างกันเลย 5555
ฟูลแบ็ค 2 ข้างบีบเข้าไปรวมกับเซ็นเตอร์แบ็คข้างใน โดยยอมอนุญาตให้ฟูลแบ็ค 2 ข้างของ ลิเวอร์พูล เติมขึ้นมาครอสส์บอลเข้าไปในเขตโทษตามอัธยาศัย เพราะต้องการ ปิดพื้นที่หน้าประตูให้มิดชิดที่สุด
ผู้เล่นในแดนกลางก็ไม่ต้องวิ่งไล่บอลบดบี้ให้เสียพลังงานครับ ถอยลงมากองรวมกันกับแผงหลังพลางตั้งด่านสกัดอยู่หน้ากรอบเขตโทษดีกว่า
เจอวิธีการเล่นแบบนี้เข้าไป ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เจาะไม่เข้าและได้แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาบนความอึดอัดเหมือนกัน หลังจากตั้งรับอย่างหนาแน่น อาร์เซน่อล จะพยายามหาจังหวะสวนกลับด้วยการวางยาวจากแดนตัวเองให้กองหน้าที่มีความปราดเปรียวสูงอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ กับ ปีแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง พาบอลไปจู่โจม ทว่าความแตกต่างคือจังหวะของทีมไอ้ปืนใหญ่มันดันไม่ "โป๊ะเชะ" เหมือน คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิ่ล
ติดตามข่าวสารได้ที่ someonewith.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น