เสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก

กว่า 6 ปีกับชีวิตที่ ลิเวอร์พูล เดยัน ลอฟเรน โดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ทุกถ้อยคำถูกย้ำซ้ำๆ ว่าเขาคือจุดอ่อนในแนวรับ

อย่างไรก็ตาม แต่ละโอกาสที่ ลอฟเรน ได้รับ แต่ละนาทีที่ได้ลงสนาม ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เขาจะย่อท้อต่อเสียงแง่ลบต่างๆ รอบตัว พลังและความแข็งแกร่งในจิตใจที่ไม่เป็นสองรองใคร คือกุญแจสำคัญที่คุณต้องนับถือในตัวผู้ชายคนนี้

เกมที่สนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ 2-1 นับเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันที่ ลอฟเรน ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมพรีเมียร์ ลีก ซึ่งเป็นช่วงเวลานานสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ที่เขามีรายชื่อเป็น 11 คนแรก

ไม่กี่เดือนก่อน ลอฟเรน คือตัวเลือกสุดท้ายบนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก แต่ด้วยอาการเจ็บหัวเข่าของ โฌแอล มาติป และฟอร์มไม่คงที่ของ โจ โกเมซ ทำให้เขามีโอกาสเรียกศรัทธาคืนจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลอฟเรน เคยแสดงออกชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล เหตุผลคือ การไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ปี 2018/19 เขาทำได้แค่นั่งดู มาติป จับคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ลงเล่น แถมยังเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ถูกลงสนามในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมาดริด

"ผมไม่ใช่ผู้เล่นประเภทที่ชอบนั่งข้างสนามและรอรับเงินหรอกนะ" คำพูดของ ลอฟเรน ในช่วงที่ตัวเองกำลังเปิดโอกาสย้ายออกจากทีมโดยมี โรม่า และ เอซี มิลาน ให้ความสนใจ


เชื่อว่าหากมีทีมใดทีมหนึ่งให้ข้อเสนอสัก 25 ล้านปอนด์ มันก็เป็นไปได้ที่การย้ายทีมอาจจะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีข้อเสนอใดๆ ยื่นเข้ามา ซึ่งทาง ลิเวอร์พูล เองก็ไม่ได้อยากขาย ลอฟเรน ออกไปเท่าไหร่ แม้แต่ปล่อยยืมออกไปทีมเองก็ไม่ได้อยากทำเช่นนั้น

"เราต้องการคุณ - ผมรู้แหละว่าคุณไม่แฮปปี้เท่าไหร่แต่ลองคิดใหม่นะ คุณยังสำคัญกับเราอยู่เสมอ" นั่นคือการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของ คล็อปป์ ผู้ซึ่งจะต้องรู้สึกโล่งใจมากที่ตัวเองยังเก็บ ลอฟเรน ไว้กับทีมได้

ลอฟเรน เป็นคนที่มีบุคลิกสุดสมาร์ท เป็นคนที่มีความยืดหยุ่น มีความแข็งแกร่ง ทั้งหมดคือปัจจัยที่ทำให้เขาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ได้เป็นเวลานาน

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องราวในวัยเด็ก ที่เขาต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผ่านอุปสรรคอะไรมามากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านั้นช่วยหล่อหลอมให้ ลอฟเรน กล้าแกร่งจนถึงทุกวันนี้

ในวัยแค่ 3 ขวบ ลอฟเรน เผชิญกับภาวะสงคราม ต้องอพยพพร้อมครอบครัว หนีเหตุการณ์วุ่นวายที่แพร่กระจายไปทั่วคาบสมุทรบอลข่าน ครอบครัวของเขา ขับรถกว่า 17 ชั่วโมง จาก เซนิก้า ใน บอสเนีย ไปยัง เยอรมนี เพื่อหาที่ที่ปลอดภัยกว่าในเมืองมิวนิค

อย่างไรก็ดี 7 ปีหลังใช้ชีวิตที่แคว้น บาวาเลีย พวกเขาถูกขับออกจากที่นั่นเพราะเรื่องเอกสารที่ผิดพลาด จะว่าไปต่อให้ที่นี่ปลอดภัยมากแค่ไหน แต่สุดท้ายพวกเขาก็เป็นเหมือนคนที่ถูกทอดทิ้งอยู่ดี

จากนั้น ครอบครัวลอฟเรน ย้ายไปอยู่ ชั้น 3 ของอพาร์ทเมนต์เล็กๆ ในเมืองคาร์โลวัค ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่ ลอฟเรน เรียกได้เต็มปากว่าชีวิตอยู่ในช่วงเวลายากลำบาก

ติดตามข่าวสารได้ที่ martysmotors.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021