การเปลี่ยนกุนซือ

กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าถ้ามีข้อเสนอมากางตรงหน้าจริง การปลุกอาร์เซน่อลให้ฟื้นคืนชีพหรือกอบกู้ความวุ่นวายที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังดู
เย้ายวนกว่าอยู่ดี

ฉะนั้นโค้ชชั้นนำของวงการทั้งที่กำลังว่างงานและไม่ว่างงานแต่อยู่ในข่ายอาจได้รับข้อเสนอจากทีมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เอริค เทน ฮาก หรือ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ก็อาจจะรอดูเชิงอีกนิดหากเอฟเวอร์ตันติดต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบคว้าโอกาส
ที่เมอร์ซี่ย์ไซด์

อันที่จริงโค้ชมือดีคนอื่นๆ ในระดับรองลงมาและเหมาะสมกับเอฟเวอร์ตันก็ยังมองเห็นได้หลายคนนะครับ เอ๊ดดี้ ฮาว นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้
มิเกล อาร์เตต้า หรือใครที่อยู่ในข่ายประมาณนี้ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่มีอะไรการันตีว่าเลือกพวกเขาเหล่านี้แล้วจะดีจริง หรือต่อให้เลือกแล้วเขา
จะยังแอบหวังถึงเก้าอี้ตัวใหญ่กว่าหรือเปล่าก็ไม่รู้

เอฟเวอร์ตันถึงมีข่าวว่าจะหันไปหา เดวิด มอยส์ ให้กลับมากู้สถานการณ์ชั่วคราว ซึ่งแน่นอนครับ จับกระแสแฟนบอลเอฟเวอร์ตันแล้วก็น่าตกใจ
ว่ามีเสียงยี้ไม่น้อยและไปๆ มาๆ อาจจะมากกว่าเสียงยินดีต้อนรับด้วย

ถ้าสุดท้ายแล้วมีการแต่งตั้งมอยส์กลับมาคุมทีมจริงๆ ผมเชื่อว่าเอฟเวอร์โตเนียนก็คงให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นนั่นล่ะครับ เพราะกุนซือชาว
สกอตต์ไม่ได้จากกูดิสัน พาร์คแบบหักหลังกัน เขาได้รับข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ลงจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความรู้สึกส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจและ
อวยพร

เพียงแต่ชื่อเสียงที่สั่งสมไว้ตลอด 11 ปีในชุดน้ำเงินและอีก 14 ปีกับเปรสตัน นอร์ธเอนด์ก่อนหน้านั้นถูกความล้มเหลวที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดลบ
ล้างไปเสียสิ้น สถานะกุนซือมือดีของวงการพลิกผันเป็นตัวตลกภายในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งฤดูกาลดี

ชื่อของมอยส์กลายเป็นกุนซือดาดๆ นับแต่นั้น ไม่ประสบความสำเร็จใดๆ อีกเลยไม่ว่าจะเป็นกับ เรอัล โซเซียดาด ซันเดอร์แลนด์ หรือ เวสต์แฮม
ยูไนเต็ด เพราะฉะนั้น แม้จะรักและชื่นชมในสิ่งที่เคยทำให้กัน แต่ถ้าตัวเลือกเป็น เดวิด มอยส์ แฟนบอลเอฟเวอร์ตันคงไม่อยากได้ ไม่ได้เป็นคน
ที่ปรารถนาให้กลับมาหรือล็อกตัวไว้ว่าต้องเป็นเขาคนนี้เท่านั้น

เหมือนเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ไม่ได้โหยหาถึงความหอมหวานนั้นอีก หากก็อย่างที่ว่าเอาไว้นั่นล่ะครับ การควานหาโค้ชที่ใช่ในสถานการณ์ที่เป็น
อยู่เวลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งโค้ชชั้นนำที่เต็มไปด้วยดีกรีก็ยิ่งยากเพราะมีวี่แววว่าทีมใหญ่รายอื่นๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน

เอฟเวอร์ตันเคยตั้ง แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์เข้ามาทำงานชั่วคราว เซ็นสัญญากันหนึ่งปีครึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2 ปีที่แล้ว
สถานการณ์คล้ายๆ กับเวลานี้ล่ะครับ มันเกิดขึ้นระหว่างฤดูกาล โค้ชชั้นนำหายาก ประกอบกับผลงานที่ผ่านมาของบิ๊กแซมพอจะฝากผีฝากไข้
ได้ว่าน่าจะกู้วิกฤติที่ โรนัลด์ คูมัน ทิ้งเอาไว้ได้ซึ่งสุดท้ายแล้วอัลลาร์ไดซ์ก็พาทีมทอฟฟี่เอาตัวรอดได้จริงๆ แถมยังปีนขึ้นไปจบอันดับ 8 ของ
ตารางอีกต่างหาก

ทว่าสไตล์การเล่นที่เน้นความรัดกุมสุดขีดและดูไม่สนุกรวมถึงภาพลักษณ์ที่เป็นกุนซือโบราณทำให้แฟนบอลไม่ค่อยยอมรับอัลลาร์ไดซ์เท่าใดนัก
สถิติของทีมในยุคบิ๊กแซมบอกว่าเอฟเวอร์ตันสร้างโอกาสยิงน้อยที่สุดในลีก ยิงตรงกรอบน้อยเป็นอันดับสองของลีก ผ่านบอลเข้าเป้ารั้งอันดับ
16 ของลีก

    

ในที่สุดอดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษก็ต้องโบกมือลาเอฟเวอร์ตันหลังทำงานได้แค่ครึ่งฤดูกาล แต่ก็ยังนับว่าบรรลุเป้าหมายที่พาทีมอยู่รอดปลอดภัย
กับมอยส์ในคราวนี้ก็จะเป็นลักษณะคล้ายๆ กัน เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพ หวังอาศัยผลงานที่ผ่านมาปลุกทีมให้ดีขึ้น อย่างน้อยก็เอาตัวรอดให้ได้ใน
ฤดูกาลนี้ แล้วจากนั้นค่อยมาว่ากันในช่วงซัมเมอร์ อาจจะเป็นมอยส์ทำงานต่อไปหรือสโมสรมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่จนได้

สิ่งที่กำลังเป็นไปในกูดิสัน พาร์คนั้นจึงน่าติดตามอย่างมากครับโดยเฉพาะข่าวลือกับ เดวิด มอยส์ ถ้ามอยส์กลับมาทำงานที่บ้านเก่าจริง อารมณ์คง
ปะปนอุตลุด แต่มันก็ยังมีโอกาสหลุดไปอยู่ในมือโค้ชคนอื่นๆ เหมือนกัน อยากให้จับตาดู มิเกล อาร์เตต้า ที่เรียนรู้ศาสตร์งานโค้ชจาก เป๊ป
กวาร์ดิโอล่า มาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่มีชื่อในข่ายเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ เช่นกัน

เวลานี้ มาร์โก ซิลวา ยังเป็นผู้จัดการทีม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าขาเก้าอี้ของเขาจะหักสะบั้นลงเมื่อไหร่ เพราะโปรแกรมที่รอเขาอยู่ในอีก 5 เกมถัดไป
ในพรีเมียร์ลีกไม่น่าสบายใจเลย เลสเตอร์ ลิเวอร์พูล เชลซี แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล คือคู่แข่งใน 5 เกมที่ว่า

มองในแง่ดีถ้าทำผลงานสวยๆ ก็จะเป็นเกราะกำบังคูณสอง แต่ดูจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านๆ มาแล้วมันชวนให้ถอนหายใจมากกว่า ไม่รู้ว่าซิลวาจะอยู่
ได้ถึงเกมบ๊อกซิ่งเดย์กับเบิร์นลี่ย์ไหม

ติดตามข่าวสารได้ที่ mutexed.com