ผู้บริหารแมนฯ ยูไนเต็ด

การซื้อตัวผู้เล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมาถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะที่คู่แค้นตลอดชาติของพวกเขาอย่าง ลิเวอร์พูล คว้าตัว โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ - ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ในราคาตัวละประมาณ 30 ล้านปอนด์ แต่ถ้าขายตอนนี้ก็คงได้ไม่ต่ำกว่าตัวละ 150 ล้านปอนด์ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด กลับต้องปล่อยดาวเตะของตัวเองให้เขายืม แถมยังต้องออกค่าจ้างช่วยเขาด้วย อะไรมันจะน่าอนาถขนาดนั้น !!!

เรื่องผู้จัดการทีมก็เหมือนกัน หลังจากคุณป๋าวางมือ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เซ็นสัญญากับ เดวิด มอยส์ ตามความต้องการของกุนซือคนเก่า ปัญหาคือทำไมมึงถึงมอบสัญญาระยะยาวให้เขาตั้ง 6 ปี เสมอหนึ่งผู้จัดการทีมท่านนี้เป็นกุนซือเทวดา ทว่ายังไม่ทันครบปีด้วยซ้ำก็จำเป็นต้องปลดออกจากตำแหน่งจนต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้เขาร่วมๆ สิบล้าน !!!

เดวิด มอยส์ สมควรโดนไล่ออกจริงๆ นะครับ มันคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง แต่ถ้ามึงไม่มอบสัญญาระยะยาวตั้งแต่แรกก็จะเจ็บตัวน้อยกว่านี้ - นี่คือความผิดพลาด

โชเซ่ มูรินโญ่ เบื้องต้นทำสัญญากับท่านซาตานเป็นเวลา 3 ปี โดย 2 ฤดูกาลแรกผ่านไปแบบมีแชมป์ ยูโรปา ลีก กับ ลีก คัพ มาประดับตู้โชว์ ก่อนคว้า "รองแชมป์" พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่แบบเต็มประดาในฤดูกาลต่อมา

ทันใดเบื้องบนบรรจงยืดสัญญาใหม่ให้อีก 1 ปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจว่าอยากให้อยู่ด้วยกันยาวๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงทีมใหม่ มึงกลับไม่สนับสนุนเขาซะอย่างนั้น

ก่อนเปิดฤดูกาล 2018-19 "มูมู่" อยากได้เซ็นเตอร์แบ็คตัวใหม่ ซึ่งตอนนั้นเงิน 60 ล้านปอนด์น่าจะลาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ออกมาจาก เลสเตอร์ ได้แล้วนะครับ พวกพี่ๆ เขาก็ดันไปซื้อผู้รักษาประตูมือ 3 อย่าง ลี แกรนต์, ฟูลแบ็คที่ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์อย่าง ดิโอโก้ ดาโล่ต์ และกองกลางลูกครึ่งบราซิล-เซิ่นเจิ้นอย่าง เฟร็ด มาร่วมทีม

เมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่ได้ผู้เล่นตามที่ตัวเองต้องการ ผลงานก็ห่วยแตก สุดท้ายต้องแยกทางกันก่อนกำหนด แล้วก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมหาศาลมากขึ้น เพราะพวกมึงทะลึ่งไปยืดสัญญาให้เขาเองไม่ต่างกันในรายของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา


หลังเสกให้ทีมมีความเร็วแรงทะลุนรก และกะซวกทุกอย่างที่ขวางหน้า บอร์ดบริหารของปีศาจแดงทำตัวเป็นเศรษฐีใจบุญอีกแล้วด้วยการเปลี่ยนสถานภาพของกุนซือหน้าทารกผู้นี้จาก "ชั่วคราว" เป็น "ถาวร" ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนอะไร โดยสามารถรอให้จบฤดูกาลเสียก่อนก็ได้

แต่พวกพี่ๆ เขากลับทำเหมือนกลัวว่าอีน้าลูกอมแกจะถูก เรอัล มาดริด ดึงไปเป็นกุนซือซะก่อนจึงรีบสถาปนาให้เป็นผู้จัดการทีมปีศาจแดงแบบถาวรซะเลย อนิจจา...นับแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีมอย่างถาวร แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งเอาชนะคู่แข่งได้แค่ 3 นัดเท่านั้นเองครับ !!!

ถ้าตอนนั้นไม่ด่วนใจร้อน บางทีกุนซือปีศาจแดงและนาทีนี้อาจไม่ใช่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็..เป็น..ได้สำหรับการซื้อ-ขายผู้เล่นในตลาดล่าสุด ดูเผินๆ เหมือนจะประสบความสำเร็จนะครับ เมื่อ ดาเนี่ยล เจมส์ มีแววว่าจะเป็นการซื้อที่ถูกหวย ขณะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็น่าจะช่วยให้เกมรับเหนียวแน่นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างคุ้มค่าตัว

แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็ปล่อย "ศูนย์หน้า" ที่เป็นหน้าเป้าจริงๆ อย่าง โรเมลู ลูกากู ออกจากทีม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็สูญเสียผู้เล่นในแผนกมิดฟิลด์อย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ กับ อันเดร์ เอร์เรร่า ตามมาด้วยการช่วย อินเตอร์ มิลาน ออกค่าเช่า อเล็กซิส ซานเชซ ล่าสุดเสีย คริส สมอลลิ่ง ไปอีกคน

สรุปได้มาแค่ 3 แต่ปล่อยไป 5 แบบไม่สมดุลย์ตามตำแหน่งซะด้วย ก่อนตลาดปิด ตำแหน่งที่เห็นชัดเจนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังต้องการอย่างแรงคือ "หน้าต่ำ" กับ "มิดฟิลด์ตัวรับ" พวกพี่ๆ เขาก็ยังทำเป็นสนิมสร้อยปล่อยให้ตลาดปิดไปโดยที่ไม่ได้ใครมาเสริม

พรีเมียร์ลีกผ่านไปแค่ 3 นัดเท่านั้นเอง เม็ดฝีที่มองเห็นอยู่ทนโท่ว่ามันบวมเป่งเต็มทนก็ระเบิดออกมาดัง "โบ๊ละ" ว่าแล้วก็ต้องรอจนถึงเดือนมกราคมกว่าจะซื้อตัวผู้เล่นใหม่ได้อีก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องโดนฟันค่าตัวแบบเกินจริง แถมคว้ามาแล้วต้องมาลุ้นต่ออีกขยักว่าจะโชว์ฟอร์มได้ดีหรือเปล่า

ติดตามข่าวสารได้ที่ sharkmaine.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021