ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

"เราจะไม่ลงเล่นฤดูกาลใหม่โดยที่มีความกังขาติดตัวแน่นอน" ร็อดเจอร์ส พูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ถ้าหาก ร็อดเจอร์ส ไม่มั่นใจในเรื่องนั้นมากเกินไป ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2014 มันก็มีเรื่องอื่นที่สื่อให้เห็นว่าเขาคือผู้จัดการทีมที่เหมาะสมจะพา ลิเวอร์พูล ไปสู่ยุคใหม่

ร็อดเจอร์ส คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมประจำประเทศอังกฤษ และในปลายเดือนพฤษภาคม เขาก็เซ็นสัญญาฉบับใหม่ที่มีระยะเวลา 4 ปี กับทีม ช่วงปิดฤดูกาล ร็อดเจอร์ส ใช้เวลาไปกับการดูเกมฟุตบอลโลก 2014 ที่ บราซิล เขาเคยถูกถ่ายภาพตอนอยู่ที่หาดอิปาเนม่า ในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ตอนนั้นเขาอาบแดดจนผิวเปลี่ยนสี และดูผ่อนคลายสุดๆ

ตอนนั้นหลายอย่างมันเป็นไปได้ด้วยดี จนถึงขนาดที่เรื่องดีๆ มันดูมีโอกาสเกิดขึ้นกับ ร็อดเจอร์ส ได้ทุกเรื่อง เช่นการที่ อังกฤษ ตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มมันทำให้บางคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์บอกว่า ร็อดเจอร์ส น่าจะเป็นแคนดิเดตสำหรับการเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษคนใหม่แทนที่ รอย ฮ็อดจ์สัน

แต่บรรยากาศ ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็ว...เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เดินทางไป บราซิล กับ เอียน แอร์ อดีตซีอีโอคนเก่าของ ลิเวอร์พูล ทั้งคู่รู้ดีว่า หลุยส์ ซัวเรซ อยากย้ายไป บาร์เซโลน่า ทริปนี้คือทริปที่เขาจำเป็นต้องหาใครเข้ามาแทนที่

โชคไม่ดีสำหรับ ร็อดเจอร์ส และ แอร์ เพราะเป้าหมายที่เล็งไว้ดันเป็นคนเดียวกันกับที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล หมายตาไว้ นั่นคือ อเล็กซิส ซานเชซ

เวนเกอร์ ใช้เวลาไม่นานตาม อเล็กซิส ไปยัง 4 เมืองใน บราซิล และเขาก็นัดเจอกับตัวแทนของ อเล็กซิส ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้ง ร็อดเจอร์ส และ แอร์ ยังคงหมกมุ่นกับการส่งข้อความถึง อเล็กซิส ที่เมือง ริโอ ส่วน เวนเกอร์ ได้โน้มน้าวใจ อเล็กซิส พูดถึงชีวิตใน ลอนดอน ว่าเป็นที่ที่ดีว่า

แล้วคำหว่านล้อมที่ เวนเกอร์ เกลี้ยมกล่อม อเล็กซิส ในโรงแรมเมือง กุยาบา และ เซา เปาโล ก็เริ่มเห็นผล ในขณะที่ ร็อดเจอร์ส กับ แอร์ ยังคงอยู่ที่ชายหาด ซัวเรซ มุ่งมั่นที่จะย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล และความต้องการดังกล่าวก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้เขาโชว์ฟอร์มอันสุดยอดจนเข้าขั้นระดับตำนาน

มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาใครมาแทน ซัวเรซ การจะหาตัวแทนคงต้องใช้เวลา แต่ฤดูกาลใหม่ใกล้จะเปิด ทาง ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ได้ใครมาทดแทนเลย

ร็อดเจอร์ส ถูกนักข่าวถามระหว่างเก็บตัว ปรี-ซีซั่น ที่ ไมอามี่ ว่าจะพิจารณาคว้าตัว มาริโอ บาโลเตลลี่ ไหม หลังมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล กำลังให้ความสนใจ ซึ่ง ร็อดเจอร์ส ยืนยันว่ากองหน้ารายนี้จะไม่มาเล่นที่ แอนฟิลด์

อย่างไรก็ตาม 3 สัปดาห์ต่อมา ร็อดเจอร์ส สวมเสื้อ ลิเวอร์พูล ด้านนอกประตู เมลวู้ด ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังเข้าใจผิดกับสื่อ หรืออย่างแย่คือไม่สามารถควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสโมสรของเขา ความจริง ร็อดเจอร์ส เล็งเป้าไปที่เป้าหมายกองหน้าคนอื่นๆที่มีโปรไฟล์ดีกว่า บาโลเตลลี่

เขาบอกกับผู้เจรจาของสโมสรว่าควรจะลองและใช้ประโยชน์จากการที่สัญญาของ คาริม เบนเซม่า มีช่องโหว่ หรือดึง เอดินสัน คาวานี่ จาก นาโปลี แม้กระทั่ง ราดาเมล ฟัลเกา จาก โมนาโก

หรือในรายของ โลอิค เรมี่ จาก ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ที่ทำข้อตกลงได้แล้วแต่ตรวจร่างกายไม่ผ่าน รวมถึง วิลเฟร็ด โบนี่ จาก สวอนซี ซึ่งดาวยิงรายนี้เรียกร้องค่าเหนื่อยสูงเกินไป

ทุกรายที่กล่าวมา ไม่มีใครย้ายมาเป็นลูกทีมของ ร็อดเจอร์ส ท้ายที่สุด ร็อดเจอร์ส มีช้อยให้เลือก 2 คนและให้เลือกว่าจะเอาใครระหว่าง ซามูเอล เอโต้ หรือ บาโลเตลลี่

หลังจากได้คุยกับ บาโลเตลลี่ เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ร็อดเจอร์ส ก็เชื่อว่าตัวเองจะทำในสิ่งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ และ โรแบร์โต้ มันชินี่ ทำไม่ได้ก็คือ การร่วมงานกับ บาโลเตลลี่ และทำให้กองหน้ารายนี้โชว์ฟอร์มสุดยอดออกมา ส่วนสาเหตุที่ต้องตัด เอโต้ ออกนั้น ร็อดเจอร์ส เชื่อว่า อดีตกองหน้า บาร์เซโลน่า รายนี้ ไม่ฟิตเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

"ผมคิดว่าเราได้เสร็จสิ้นการทำธุรกิจที่ฉลาดเอามากๆ" ร็อดเจอร์ส กล่าวหลังได้ตัว บาโลเตลลี่ ในราคา 16 ล้านปอนด์ "การซื้อครั้งนี้จะเป็นมูลค่าที่ยอดเยี่ยมของสโมสร" ถามว่าทำไมค่าตัวของ บาโลเตลลี่ ราคาถูกมาก? มันคงจะตรงกับความจริงที่ว่า "ของที่มูลค่าลดลงมันก็จะมาพร้อมกับรอยตำหนิ"

ติดตามข่าวสารได้ที่ mobemarketplace.com