ผู้เล่นสวมเสื้อเบอร์ 7

อดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอังกฤษ เขาเริ่มค้าแข้งกับสคันธอร์ปยูไนเต็ดใน ค.ศ. 1968 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูลใน ค.ศ. 1971 

โดยสวมเสื้อเบอร์ 7 ในขณะที่ค้าแข้งอยู่กับลิเวอร์พูลนั้น คีแกนสามารถคว้าแชมป์รายการสำคัญต่างๆมากมายได้แก่ ดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย, ยูฟ่าคัพ 2 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และยูโรเปียนคัพอีก 1 สมัย เขาติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ต่อมาใน ค.ศ. 1977 เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมฮัมบูร์ก ในการค้าแข้งกับฮัมบูร์ก

เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป 2 สมัยติดต่อกัน คือ 1978 และ 1979 ในฤดูกาลเดียวกันเขาได้เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ฤดูกาล 1978-79 และสามารถคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพในปีถัดมาอีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีมเซาแธมป์ตันเป็นเวลา 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งกับนิวคาสเซิลใน ค.ศ. 1984 และสามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ ก่อนที่จะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในอีก 2 ปีถัดมา ในขณะที่ติดทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 63 นัด และยิงได้ 21 ประตู


ใน ค.ศ. 1992 เขากลับสู่นิวคาสเซิลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม และพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากเลื่อนชั้นแล้วคีแกนพาทีมคว้าอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 1995–96 หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปคุมฟูแลม


ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษใน ค.ศ. 1999 แต่คุมทีมเพียงแค่ปีเดียวเขาก็ขอลาออกจากตำแหน่ง ปีถัดมาคีแกนตัดสินใจเขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี และคุมทีมได้นาน 4 ปี ก็ขอลาออกจากตำแหน่ง

หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลอีกเลยเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะกลับมาคุมนิวคาสเซิลอีกเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2008 เนื่องจากขัดแย้งกับบอร์ดบริหารของสโมสร เควิน คีแกน เริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลจากการเป็นเด็กฝึกหัดของสคันธอร์ป ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่ลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 35,000 ปอนด์ คีแกนได้ลงเล่นเกมแรกให้ทีมชาติอังกฤษเจอกับทีมชาติเวลส์ ที่คาร์ดิฟฟ์ sirreyeh.org ก่อนจะช่วยลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยใน 3 ปีแรกที่แอนฟิลด์ ต่อมาในปี 1973 ลิเวอร์พูลได้แชมป์ ยูฟ่าคัพ หลังจากสามารถเอาชนะโบรุสเซียมึนเช็นกลัดบัคได้สำเร็จ 3 ปีต่อมา คีแกนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีหลังพาลิเวอร์พูลชนะบรูเกส 4-3 ในประตูรวมคว้าแชมป์ ยูฟ่าคัพ อีกสมัย คีแกนนั้นถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ เป็นครั้งแรกหลังชนะกลัดบัค ก่อนที่เขาจะย้ายสู่ ฮัมบูร์ก ด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ฮัมบูร์กได้แชมป์บุนเดสลีกาและคีแกนก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 1977-78 โดยฤดูกาลถัดมาเขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียุโรปอีกด้วย ในปี 1980 คีแกนตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเซาแธมป์ตันด้วยค่าตัว 420,000. ปอนด์ เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ก่อนย้ายสู่นิวคาสเซิลด้วยค่าตัว 100,000 ปอนด์ คีแกนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาลงเล่นให้กับนิวคาสเซิลไปทั้งหมด 78 นัด ยิงได้ 48 ประตู ก่อนจะประกาศเลิกเล่นในปี 1984 รวมคีแกนลงเล่นให้กับทุกสโมสรไป 592 นัด ยิงได้ 204 ประตู และลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 63 นัด ยิงได้ 21 ประตู เควิน คีแกน กลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล คุมทีมได้ 1 ปี คีแกนสามารถพานิวคาสเซิลเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ชิพได้ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม พร้อมได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของดิวิชั่น 1 ด้วย  ต่อมาในปี 1994 คีแกนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการด้านฟุตบอลของนิวคาสเซิล ก่อนต่อสัญญากับทีมออกไปอีกรวม 10 ปี ต่อมานิวคาสเซิลจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 ในพรีเมียร์ชิพ ในปี 1996 นิวคาสเซิลเป็นได้เพียงรองแชมป์ของพรีเมียร์ชิพเท่านั้น

โดยก่อนหน้านี้นิวคาสเซิลนำแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแชมป์ในปีนั้นห่างถึง 12 คะแนน และคีแกนยังมีปากเสียงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผ่านการให้สัมภาษณ์ทางทีวี ก่อนที่เขาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021