คอมมูนิตี้ชิลด์
จะมีอยู่วันหรือช่วงหนึ่งของวันในแต่ละสัปดาห์ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับทีมสตาฟฟ์ จะมาสุมหัวกันศึกษาเทปจากเกมที่ผ่านมาตลอดจนวิเคราะห์คู่แข่งเกมถัดไป
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ โจ โกเมซ ลงประจำการแบ็กขวาทำให้เจ้าหนู เทรนท์ อเล็กซ์-อาร์โนลด์ ต้องหล่นไปเป็นตัวสำรอง คือนอกเหนือจากมันก็ควรต้องโรเตชั่นบ้างแล้วด้วย คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟหันกลับมาใช้ โจเอล มาทิป และ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่เล่นร่วมกันมาเป็นส่วนใหญ่ซีซั่นที่แล้ว
ก็สองเกมที่ผ่านมา ตั้งแต่คอมมูนิตี้ชิลด์ที่แพ้ลูกโทษให้ แมนฯ ซิตี้ จนถึงเกมเปิดสนามกับ นอริช มันมีบางร่องรอยทำให้โค้ชสัญชาติดอยทช์รู้สึกค่อนข้างกังวล มันเป็นพื้นที่ซึ่งเขาควรไว้วางใจได้ต่างหากด้วย จุดนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญสู่การจบรองแชมป์กวาด 97 แต้มจนถึงครองแชมป์ยุโรปสำเร็จ คล็อปป์ อ่านออกว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องส่ง คริสเตียน พูลิซิช หรืออย่างน้อยก็เป็นตัวที่มีความเร็วในการมาโจมตีพื้นที่กราบขวาของสนาม ไม่ได้บอกว่า "เทรนท์" ไม่ดี แต่เกมรับไม่ใช่จุดเด่นของเขา จากสองเกมก่อนหน้านั้น ก็มีตัวอย่างที่ทั้งเรือใบกับนกขมิ้นบุกมาตรงเกมรับด้านขวาของ ลิเวอร์พูล หลุดจาก "เทรนท์" ทำให้ โกเมซ ต้องขยับมาช่วย นั่นเองเปิดช่องว่างตรงกลาง
มีสถิติที่สะท้อนได้ทุกริ้วรอยครับ สามเกมแรกของสโมสรตราหงส์พวกเขาโดนยิงถึง 40 ครั้ง จำแนกได้ดังนี้ 8 ครั้งกับ ซิตี้, 12 ครั้งกับ นอริช และ20 ครั้งกับ เชลซี เมื่อคืนวันพุธ เปรียบเทียบฤดูกาลก่อนแตกต่างสิ้นเชิง สามเกมแรกเจอยิง 19 ครั้งเท่านั้น เป็น 5 ครั้งกับ เวสต์แฮม, 8 ครั้งกับ คริสตัล พาเลซ และ6 ครั้งกับ ไบร์ทตัน
โอเค-หลายคนย่อมชูมือ "ก็ดูชื่อชั้นของทีมที่เจอก่อนซิ" อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่พวกเขาเสียประตูทุกเกมในซีซั่นนี้ หรือว่าสถิติที่ว่าโดนส่องรวมมาแล้วถึง 40 ครั้ง แต่จังหวะการยืนคุมโซนที่เคยดูแข็งแรง เกมเพรสซิ่งที่เข้าจู่โจมประหนึ่งฝูงหมาป่าผู้หิวกระหาย สำคัญที่สุดแท็กติก "High Defensive Line" ที่ คล็อปป์ โปรดปราน ดูมีเรื่องให้ต้องกลับไปติวเข้มอีกครั้ง
กับทีมที่เสียยาก ภูมิใจกับคลีนชีตหลายต่อหลายเกมซีซั่นที่แล้ว พวกเขาเสียไปแค่ 27 ลูกในทุกรายการ มันย่อมเป็นเรื่องที่บรรดาทีมสตาฟฟ์ ลิเวอร์พูล ย่อมนำมาขบคิด ความจริง สัญญาณเตือนบางอย่างเริ่มต้นตั้งแต่ปรีซีซั่นที่พวกเขาไม่เหมือนเดิมในเกมรับ จาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ทีโม ปุ๊กกี้ จนถึง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ มันเป็นการโดนเจาะตาข่ายที่ดูง่ายเกินไป อย่างล่าสุด ก็ถูกแทงทะลุช่องไปถึงอดีตหัวหอกอาร์เซนอล เข้าแปด้วยซ้ายผ่าน martysmotors.com อาเดรียน เป็นประตูนำ 1-0 ของเชลซี นอกจากนั้น ก็มีอีกบ่อยครั้งที่ เดอะ ค็อป นั่งกันไม่ติดก้น เมื่อเกมรุกของขุนพลชุดน้ำเงินทั้ง เปโดร, พูลิซิช จนถึงตัวสำรอง เมสัน เมาท์ สามารถพาบอลเข้ามาอยู่ในเขตอันตรายได้ข้างในกรอบเขตโทษ คล็อปป์ เองพูดถึงเรื่องนี้ไว้หลังเกมที่ อิสตันบูล "เรารู้ว่ามีอีกหลายอย่างต้องพัฒนา คุณเริ่มกังวลหรือโมโหแล้วพอเห็นลูกแบบนั้นเข้าประตู (จังหวะที่ลูกยิงพูลิซิชกับเมาท์เข้าแล้วโดนจับล้ำหน้า) เพราะคุณเริ่มคิดว่าแผนการเล่น High Line มันได้ผลแค่ไหน บางทีล้ำหน้าสองหรือสามหลาแต่บางทีมันอาจไม่ล้ำหน้าก็ได้" สไตล์เพรสซิ่งที่เขานิยม จำเป็นต้องให้แผงหลังทั้งสี่ยืนสูงขึ้นมาเพื่อบีบพื้นที่ให้คู่แข่งมีโอกาสหลุดรอดจากฝูงหมาป่าน้อยที่สุด หากต้องชื่นชม เชลซี ว่าทำได้ดีมากโดยเฉพาะ เปโดร, จอร์จินโญ่ กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีจังหวะพาบอลหนีกับดักเพรสซิ่ง ก่อนเปลี่ยนจากเหมือนเสียเปรียบเป็นได้เปรียบอย่างรวดเร็ว ลิเวอร์พูล ได้โทรฟี่เพิ่มอีกใบ คล็อปป์เองก็มีบั้งบนบ่ามากขึ้น แต่เขาเองมีการบ้านต้องรีบทำก่อนที่เสาร์นี้ต้องลงแดนใต้ไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมที่เละเทะมาเกมเปิดสนาม
"พวกเรารู้ว่าสามารถเล่นได้ดีกว่านี้ ให้เครดิตเชลซีด้วย มันเป็นเกมที่ยากแต่ผมมีความสุขที่สุดท้ายเราชนะ" เป็นประโยคที่สรุปได้ทุกอย่างจากนัดชิงยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น