เป็นการซื้อตัวมาแบบไม่ได้หวังผลทันที

สังเกตเห็นอะไรไหมครับ ถ้าไม่เห็น ผมจะบอกให้ว่าส่วนใหญ่เป็นการซื้อตัวมา

แบบไม่ได้หวังผลทันที ประมาณว่าในเมื่อตลาดเปิดหรือในเมื่อมีโอกาสก็เซ็น

สัญญากันไว้ก่อน ไม่ได้หวังว่าจะเอามาเพื่อแก้ปัญหาโดยฉับพลัน

ยกตัวอย่างกองหน้าสัญชาติมังกรอย่าง ตง ฟาง โจว ที่ใครๆ ก็มองออกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เอานักเตะหน้าตี๋ผู้นี้มาเพื่อเปิดตลาดในเมืองจีนซะมากกว่า

หรือนักเตะโนเนมอย่าง มานูโช่ กับ โซรัน โทซิซ ที่ซื้อมาแล้วก็แทบไม่ได้ใช่งานอย่างจริงจังสักเท่าไหร่ นอกนั้นก็จัดอยู่ในประเภทผู้รักษาประตูมือ 2 หรือมือ 3 อย่าง ริคาร์โด้, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด และบิคตอร์ บัลเดส ที่เอามาสำรองไว้แบบเผื่อเหลือเผื่อขาด แม้กระทั่งกองหลังในตำนานอย่าง เนมานย่า วิดิช กับ ปาทริซ เอวร่า ที่กระชากตัวมาร่วมทีมด้วยหวังผลในระยะยาวมากกว่า แถมตอนแรกที่ย้ายมาทั้งคู่ก็ยังปรับตัวให้เข้ากับทีมไม่ได้ ขณะที่ วิลฟรีด ซาฮา ก็ถือเป็นการซื้อมาเตรียมไว้ในอนาคต ส่วนไอ้ที่ดึงตัวมาเพื่อแก้ไขปัญหาและแก้ไขสถานการณ์แบบทันท่วงทีนั้นมีอยู่เพียงแค่ 3 หน่อเท่านั้นหลุยส์ ซาฮา ฆวน มาต้า อเล็กซิส ซานเชซ ทั้ง 3 ตัวนี้เป็นการซื้อที่พากย์ภาษาอังกฤษว่า "Panic Buy" นักเตะประเภทนี้ค่าตัวจะแพงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นการซื้อแบบแดกด่วน ต้นสังกัดเดิมสามารถโขกได้อย่างเต็มที่ หลุยส์ ซาฮา ถูกกระชากมาจาก ฟูแล่ม ด้วยค่าตัว 12.8 ล้านปอนด์ เพราะตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังบดบี้กับ อาร์เซน่อล โดยที่สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงต้องการเพิ่มประสิทธิ์ภาพในเกมรุก เพื่อป้องกันแชมป์



เช่นเดียวกับ ฆวน มาต้า ที่นั่งเฮลีคอปเตอร์จากลอนดอนมาลงที่ศูนย์ฝึกแคร์ริงตัน

เนื่องจากตอนนั้น พลพรรคปีศาจแดงจากการทำงานของ เดวิด มอยส์ กลายสภาพจาก

แชมป์เก่าเป็นทีมระดับกลางตารางอย่างน่าอดสู

ดาวเตะคนล่าสุดที่ได้ตัวมาในช่วงตลาดหน้าหนาวอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ก็เป็นการเอามาแบบเสียมิได้ ด้วยเจ้าตัวไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมปืนโต เบื้องบนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เห็นเป็นโอกาสดีจึงยอมเอา เฮนริค มคิทาร์ยาน ไปแลก พร้อมทุ่มค่าเหนื่อให้อย่างมโหฬารถึงสัปดาห์ละ 5 แสนปอนด์

หากดูจากประวัติที่ผ่านๆ มาในแต่ละฤดูกาล คุณจะพบว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยซื้อผู้เล่นแบบด่วนแดกในช่วงตลาดหน้าหนาวมากกว่า 1 คน ทว่าสถานการณ์นี้ พวกเขากลับต้องการนักเตะใหม่อย่างต่ำๆ ถึง 2-3 คน อืมมมมม...แล้วมันจะไปได้อะไร เรียนตามตรงนะครับว่าถ้าเอามาได้แค่คนเดียวก็เก่งแล้ว แถมเอามาแล้วยังต้องมาลุ้นต่ออีกขยักว่าผู้เล่นคนนั้นจะระเบิดฟอร์มอันยอดเยี่ยมของตัวเองออกมาได้หรือเปล่า นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็อยากหัวเราะออกมาเป็นภาษามอนเตเนโกร microsym.com เหมือนอย่างที่ไอ้อ้วนเบาหวาน มิโน่ ไรโอล่า มันเพิ่งจ้วงจึกถึง แมนฯ ยูไนเต็ด เอาไว้เมื่อหลายวันก่อน "ผมจะไม่มีวันยอมให้นักเตะในความดูแลของตัวเองไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกแล้ว เพราะที่นั่นมีแต่จะทำลายนักเตะ ต่อให้ยอดดาวเตะอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า , เปเล่ หรือ เปาโล มัลดิโน่ ไปอยู่ ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอก" "ปัญหาของพวกเขาคือไม่เคยยอมรับความจริง แถมไม่มีแผนงานด้านการพัฒนาที่ดีพออีกต่างหาก แต่ไอ้ที่ทำให้ผมโมโหอย่างจงหนักคือการทำให้ ป็อกบา กลายเป็นผู้เล่นที่มีสภาพจิตใจแย่จากการโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน 

นักเตะอย่างเขาต้องเป็นระดับผู้นำเหมือนตอนอยู่ ยูเวนตุส แต่สโมสรแห่งนี้กลับกีดกันทุกอย่างทั้งที่จริงควรย้ายทีมตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว" รู้ทั้งรู้ว่าการซื้อตัวผู้เล่นในช่วงตลาดหน้าหนาวนั้นมันทั้งยากและเสี่ยง แต่ก็อย่างที่เอเย่นต์ของ "คุณป็อก" มันสำรากเอาไว้นั่นแหละครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021