ความแม่นยำและแน่นอนกว่า
ลำดับถัดมาคือการต่อบอล-ทำชิ่ง เชลซี มีความแม่นยำและแน่นอนกว่า มิหนำยังมากด้วยทีมเวิร์คกว่าซะด้วย พวกเขาให้บอลแล้วก็เคลื่อนที่พลางสอดประสานกันอย่างลื่นไหล นี่คือเหตุผลที่บอกว่าทำไม เชลซี ถึงคุมเกมในแดนกลางพลางเดินเกมบุกและหาจังหวะจบได้มากกว่า
ปัญหาคือเกมรับ เฉพาะอย่างยิ่งคู่เซ็นเตอร์ฯ ที่ค่อนข้างยอบแยบและยวบยาบ คูร์ต ซูม่า ทั้งทะเล่อทะล่า โฉ่งฉ่าง และซุ่มซ่ามจนกลายเป็นจุดอ่อนพร้อมเสียประตูโดยไม่จำเป็นต้องถูกคู่แข่งกดดันด้วยซ้ำ เกมรุกก็เช่นกัน การสูญเสีย เอแด็น อาซาร์ ทำให้แผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งเล่นง่าย และเจองานสบายขึ้นเยอะ
หัวหอกตัวเป้าก็ไม่อันตรายเพียงพอที่จะทำให้คู่เซ็นเตอร์ฯ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดอาการระทมกบาล เพราะเป็นแค่เด็กใหม่อย่าง แทมมี่ อับราฮัม ผิดกับเมื่อก่อนที่ต้องปะทะกับศูนย์หน้าระดับพระกาฬอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หรือ ดิเอโก้ คอสต้า เมื่อตกเป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พยายามตอบโต้ด้วยจังหวะฉาบฉวย โดยที่ยังหาทางพลิกสถานการณ์ให้รูปเกมของตัวเองกระเตื้องขึ้นไม่ได้ ส่งผลให้บรรดาเด็กผีที่ชมถ่ายทอดสดทำหน้าเหมือนอมชักโครกด้วยความอึดอัดและกระสับกระส่ายเหมือนถูกกางเกงในเข้าตูด
ทันใด คูร์ต ซูม่า ก็ออกลูกซุ่มซ่ามแล้วทำเสียจุดโทษโดยไม่จำเป็นซะอย่างนั้น ประหนึ่งถูกลุงแท้ๆ ของตัวเองที่ตอนแรกก็ดูอบอุ่นและใจดี โดยไม่มีทีท่าว่าท่านจะเป็นคนวิปริตทางเพศจับอัดถั่วทำขณะที่นั่งดูบอลด้วยกันตอนหัวค่ำของวันเสาร์
จิตใจจึงได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหน่วงหนักจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า เหงา และแฮงก์ และสูญเสียความเชื่อมั่นจนเครื่องชอตไปเลยช่วงหนึ่ง ฝ่ายเจ้าบ้าน เมื่อขึ้นนำอย่างโชคดีแล้วก็หันมาเล่นอย่างระมัดระวังพลางหาจังหวะสวนกลับ เรียกว่าเล่นเพื่อรักษาสกอร์มากกว่าเล่นเพื่อเอาสกอร์เพิ่ม
เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นก็จริง หลังจากที่ได้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ อารอน วาน-บิสซาก้า มาอยู่ในแผงแบ็คโฟร์ กระนั้นก็ยังเปิดโอกาสให้ เชลซี มีโอกาสมากมาย ชนิดหากไม่ได้เสากับคานช่วยชีวิตเอาไว้ บอกได้เลยครับว่า...เด๊ดห่า microsym.com ทั้ง 4 ประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้มาจากจังหวะโต้กลับเกือบทั้งหมด ไม่ได้มาจากการบุกกระหน่ำกดดันอยู่ข้างเดียว จังหวะจู่โจมแบบลอบฆ่าที่พากย์ภาษาอังกฤษว่า "เคาน์เตอร์ แอทแท็ก" แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ยอดเยี่ยมอย่างมีประสิทธิภาพจริงจนไม่มีใครสงสัยในความเฉียบคมและเด็ดขาด ทว่าวิธีการเล่นเกมรุก หรือรูปแบบการเล่นเกมรุกเวลาพวกเขาเป็นฝ่ายครองบอลบุกกดดันคู่แข่งแทบไม่มีอะไรเลย มันปราศจากความหลากหลายพอๆ กับไร้จินตนาการทั้งลูกครอสส์จากริมเส้น, การทำชิ่ง 1-2 หรือตะบันจากแถวสอง ส่วนใหญ่อาศัยความคล่องและเร็วของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นสำคัญ ต่อเมื่อบุกเข้ามาถึงพื้นที่สุดท้าย ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็จะเคาะบอลกันไปเคาะบอลกันมาอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะทำบอลเสียเองง่ายๆ และหาจังหวะจบไม่ลง ฉะนั้น & ฉะนี้ เกิดปัญหากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการเจาะตาข่ายแน่ เวลาเจอคู่แข่งบีบพื้นที่ให้แคบๆ แล้วถอยไปตั้งรับลึกๆ
เชลซี แพ้เพราะเกมรับแย่ และเบาเกินไปในเกมรุก แถมไม่มีดวงสักเท่าไหร่ ซึ่งเวลาที่คุณมีรูปเกมที่เหนือกว่าคู่แข่งแล้วดันโดนกะซวกไส้แตกแบบนี้ ภาษาฟุตบอลเขาเรียกว่า "แพ้จังหวะ" ไม่ำด้แพ้แบบ "สู้ไม่ได้"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น