ข่าวจริงหรือไม่จริง

จะเป็นข่าวจริงหรือไม่จริงไม่รู้หรอก แต่กระแสในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาแรงมากและทำให้เกิดความสั่นสะเทือนพอสมควร สั่นสะเทือนในหมู่เดอะค็อป

มีทั้งความเห็นยินดีต้อนรับ มีทั้งความเห็นว่ายังไงก็ได้ มีทั้งความเห็นว่ากลับมาทำไม ไปแล้วก็ไปเถอะ ทิ้งเราตอนลำบากก็อย่าซมซานกลับมา มีหลากความรู้สึก หลายอารมณ์ ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก

สำคัญที่สุดก็คืออย่ายัดเยียดความรู้สึกของตัวเองให้คนอื่น อย่าเหยียดหยามกัน อย่าใช้คำพูดประเภทเสียดแทงกันเมื่อเห็นใครที่คิดไม่เหมือนกับเรา

ถ้าคุยและถกกันด้วยเหตุผลได้จะเป็นเรื่องดีมาก ความสำคัญของเรื่องต่างๆ ที่เป็นประเด็นนั้นคือการได้พูดคุยต่อยอดความคิด เติมเต็มหลักการบางส่วนที่เราอาจมองข้ามไป

เป็นการขัดเกลาความคิดของตัวเอง ไม่ใช่การเอาชนะคะคานจริงจังอย่างจะเป็นจะตาย เรื่องบางเรื่องนั้นเซนซิถีฟ กระทบความรู้สึก แน่นอนครับเรื่องของ ฟิลิเป้ คูตินโญ่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น


ความเห็นแบบอารมณ์มาเต็มก็มี ความเห็นแบบพร้อมอ้าแขนเปิดรับก็มี ถามว่าสองความเห็นที่อยู่คนละด้านนี้ใครผิด..

ผมไม่คิดว่ามีใครผิด คนที่พร้อมอ้าแขนรับเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องศักดิ์ศรีหรือมึงทิ้งกูไปหรืออะไรอย่างนั้นเลย รักทีมน่ะใช่แต่ก็เข้าใจนักเตะ ข้อเสนอจากบาร์เซโลน่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ทีมในฝันและการได้เล่นร่วมกับเมสซี่และซัวเรซ

ตอนสวมชุดหงส์แดงก็รับใช้สโมสรอย่างซื่อสัตย์ ลุยแหลกด้วยกันเต็มที่ อยู่ในทีมชุดลุ้นแชมป์ สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนนับไม่ถ้วน ช่วยยกระดับทีม ตอนย้ายไปก็ไม่เคยพูดสิ่งไม่ดีกับสโมสร ให้สัมภาษณ์ในมุมที่ดีกับลิเวอร์พูลเสมอ

ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับว่ามันจะเป็นอย่างไร เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะพอมองภาพกว้างได้ชัดกว่า เขารู้ว่าคูตินโญ่จะเป็นตำนานในแอนฟิลด์ได้แน่จึงพยายามรั้งตัวเบอร์ 10 ของเขาไว้ เพื่อทีมนั้นอาจจะส่วนหนึ่ง แต่ผมคิดว่าเพื่อตัวนักเตะเองด้วย คล็อปป์รักคูตี้อย่างนั้น อย่างที่ถึงขนาดอยากเห็นรูปปั้นของลูกทีมคนนี้ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นไปได้

หากการตัดสินใจเป็นของนักเตะ บางครั้งชีวิตเราก็ต้องเจอทางเลือก เราทุกคนต่างก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้กันมาแล้วทั้งนั้น เลือกโรงเรียน เลือกคณะ เลือกงาน เลือกเพื่อน เลือกแฟน หรือเลือกอะไรที่สำคัญยิ่งกว่า ฯลฯ

คูตินโญ่ไม่ได้ผิดขนาดฆ่าใครตายหรือดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของสโมสรลิเวอร์พูลอย่างให้อภัยไม่ได้ เขาเป็นแค่นักฟุตบอลคนหนึ่งที่มีทางเลือกชวนให้หัวใจสั่นมาวางอยู่ตรงหน้า ถ้าปฏิเสธไปจะมีโอกาสอย่างนี้อีกหรือเปล่า มันอาจเป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิต พลาดแล้วพลาดเลย

ติดตามข่าวสารได้ที่ luminokaya.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021