ถูกสั่งลงโทษ
ประหนึ่งดวงจันทร์ค่อยๆ จมลงไปในน้ำ เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ถูกสั่งลงโทษด้วยการห้ามเข้าร่วมศึกฟาดแข้งใดๆ ที่จัดโดย ยูฟ่า เป็นเวลา 2 ฤดูกาล (2020-21 และ 2021-22) ข้อหาทำผิดกฏ "ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์"
"ยูฟ่า" ตั้งกฏนี้มาเพื่อควบคุมมิให้สโมสรที่มีเจ้าของเป็นโคตรมหาเศรษฐีเอาเปรียบคู่แข่งด้วยการใช้ความมั่งคั่งและร่ำรวยของตัวเองอย่างหน้ามืดตามัว โดยไม่คำนึงถึงผลประกอบการของสโมสรตัวเองนั่นแหละ
เพราะหาก "รายจ่าย" มากกว่า "รายรับ" แล้วอาศัยว่าเจ้าของทีมกูรวย แบบนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับทีมอื่นที่เจ้าของไม่จัดอยู่ในประเภท "โคตรมหาเศรษฐี" สักเท่าไหร่
ขอโทษ...มันไม่ใช่แค่ใช้เงินเกินตัวจนรายจ่ายกับรายรับ มันไม่สมดุลย์กันเท่านั้นนะครับ แมนฯ ซิตี้ ยังตกแต่งบัญชีรายรับให้สูงเกินจริง เพื่อหลอกลวงและตบตายูฟ่าอีกต่างหาก
ความผิดจึงเข้าขั้น...ร้ายแรงยิ่งนัก แมนฯ ซิตี้ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกหรืออะไรทำนองนั้นทันที ด้วยหวังว่าบรรดาตุลาการท่านจะมีเมตตา กรุณา และอุเบกขา
ตรงจุดนี้ก็น่าจะขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมงานทนายความของทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์เองนั่นแหละครับว่าจะเปลี่ยนผิดเป็นถูกได้มากน้อยขนาดไหน
แล้วต้องไม่ลืมด้วยนะครับว่า...มูลความผิดของ แมนฯ ซิตี้ ที่ถูกส่งให้ "ยูฟ่า" ครั้งนี้มาจาก "แฮคเก้อร์" ชาวโปรตุเกส นาม รุย ปินโต้ ที่ไปแฮ็คข้อมูลมา ซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย เพราะฉะนั้นบางทีศาลท่านอาจมองว่ามันเป็นข้อมูลที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง...ก็..เป็น..ได้
อย่างไรก็ตาม หากมองดูด้วยตาเปล่า คุณสามารถมองเห็นความผิดแบบเต็มประตูของ แมนฯ ซิตี้ ที่ถ้าไม่ตกแต่งบัญชีรายรับให้มันสูงเกินจริง ผลประกอบการของพวกเขาน่าจะติดลบได้ไม่ยาก ลองคิดดูเล่นๆ แบบนี้ก็ได้ครับว่านับตั้งแต่ท่านชีค มันซูร์ บินซาเยด อัล นาห์ยาน เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้
พวกเขาวอดวายไปกับค่าตัวและค่าเหนื่อยของบรรดาผู้เล่นระดับมหาดาราไปแล้วเท่าไหร่ ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่ใช่สโมสรฟุตบอลประเภท "แบรนด์เนม" ที่สามารถกอบโกยรายได้จากการขายชื่อเสียงของตัวเองไปทั่วโลกได้อย่างมหาศาลเหมือนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล สักหน่อย
"ยูฟ่า" ตั้งกฏนี้มาเพื่อควบคุมมิให้สโมสรที่มีเจ้าของเป็นโคตรมหาเศรษฐีเอาเปรียบคู่แข่งด้วยการใช้ความมั่งคั่งและร่ำรวยของตัวเองอย่างหน้ามืดตามัว โดยไม่คำนึงถึงผลประกอบการของสโมสรตัวเองนั่นแหละ
เพราะหาก "รายจ่าย" มากกว่า "รายรับ" แล้วอาศัยว่าเจ้าของทีมกูรวย แบบนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับทีมอื่นที่เจ้าของไม่จัดอยู่ในประเภท "โคตรมหาเศรษฐี" สักเท่าไหร่
ขอโทษ...มันไม่ใช่แค่ใช้เงินเกินตัวจนรายจ่ายกับรายรับ มันไม่สมดุลย์กันเท่านั้นนะครับ แมนฯ ซิตี้ ยังตกแต่งบัญชีรายรับให้สูงเกินจริง เพื่อหลอกลวงและตบตายูฟ่าอีกต่างหาก
ความผิดจึงเข้าขั้น...ร้ายแรงยิ่งนัก แมนฯ ซิตี้ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกหรืออะไรทำนองนั้นทันที ด้วยหวังว่าบรรดาตุลาการท่านจะมีเมตตา กรุณา และอุเบกขา
ตรงจุดนี้ก็น่าจะขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมงานทนายความของทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์เองนั่นแหละครับว่าจะเปลี่ยนผิดเป็นถูกได้มากน้อยขนาดไหน
แล้วต้องไม่ลืมด้วยนะครับว่า...มูลความผิดของ แมนฯ ซิตี้ ที่ถูกส่งให้ "ยูฟ่า" ครั้งนี้มาจาก "แฮคเก้อร์" ชาวโปรตุเกส นาม รุย ปินโต้ ที่ไปแฮ็คข้อมูลมา ซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย เพราะฉะนั้นบางทีศาลท่านอาจมองว่ามันเป็นข้อมูลที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง...ก็..เป็น..ได้
อย่างไรก็ตาม หากมองดูด้วยตาเปล่า คุณสามารถมองเห็นความผิดแบบเต็มประตูของ แมนฯ ซิตี้ ที่ถ้าไม่ตกแต่งบัญชีรายรับให้มันสูงเกินจริง ผลประกอบการของพวกเขาน่าจะติดลบได้ไม่ยาก ลองคิดดูเล่นๆ แบบนี้ก็ได้ครับว่านับตั้งแต่ท่านชีค มันซูร์ บินซาเยด อัล นาห์ยาน เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้
พวกเขาวอดวายไปกับค่าตัวและค่าเหนื่อยของบรรดาผู้เล่นระดับมหาดาราไปแล้วเท่าไหร่ ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่ใช่สโมสรฟุตบอลประเภท "แบรนด์เนม" ที่สามารถกอบโกยรายได้จากการขายชื่อเสียงของตัวเองไปทั่วโลกได้อย่างมหาศาลเหมือนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล สักหน่อย
ติดตามข่าวสารได้ที่ louisvilleghostwalks.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น