โตมากับฟุตบอล
คาร์ราเกอร์ อาจโตมาโดยเป็นแฟนบอล เอฟเวอร์ตัน ก็จริง แถมยังเคยใส่เสื้อ แกรม ชาร์ป (อดีตผู้เล่นเอฟเวอร์ตัน) มาที่สนามซ้อม ลิเวอร์พูล แต่เลือดในกายเขากรีดออกมาเป็นสีแดง เราต่างรู้ดีถึงความซื่อสัตย์ของ คาร์ราเกอร์ ที่มีต่อสโมสรตลอด 17 ปีในถิ่น แอนฟิลด์
เขาเป็นคนที่กระตือรือร้นมาก เป็นกองหลังสารพัดประโยชน์ที่มีเรี่ยวแรงล้นปรี่ และมีวินัยสุดๆ ตอนลงซ้อมที่ เมลวู้ด คาร์ร่า ตั้งมาตรฐานไว้สูง เขาต้องการให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนทำให้ได้ในระดับเดียวกับตัวเอง
คาร์ราเกอร์ จะเข้าสกัดใส่เพื่อนร่วมทีมแบบดุเดือด, วิ่งด้วยความมุ่งมั่นประหนึ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซ้อมแบบจริงจังเหมือนกับว่าชีวิตเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ตอนซ้อม ถ้าหากเขาเจอคนที่ไม่สามารถทำผลงานได้ในระดับเดียวกับเขา คาร์ร่า จะเดินเข้าไปพูดแบบซึ่งๆ หน้า โดยหลายครั้งเรื่องมันบานปลายจนทำให้เกิดการทะเลาะกันบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ คาร์ราเกอร์ ทำก็เพราะเขาต้องการให้เพื่อนๆ เล่นด้วยความพยายามแค่เท่านั้น
"เราไม่เคยทะเลาะกันทั้งในและนอกสนามเลย" หลุยส์ ซัวเรซ กล่าวถึง คาร์ราเกอร์ ในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองเมื่อปี 2014 "แต่ผมก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อทำความคุ้นเคยกับการซ้อมของเขา ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยซ้อมโดยที่ต้องใส่สนับแข้งเพื่อกันเหนียวเอาไว้มาก่อนเลย และผมก็พูดกับตัวเองว่า -คนเป็นเพื่อนร่วมทีมกันมาสกัดแบบนั้นในการซ้อมได้ยังไงวะ มันอาจจะทำให้ฉันเจ็บได้ง่ายๆ เลยไม่ใช่รึไงกัน ?-"
"นักเตะคนอื่นๆ พูดกับผมว่า -คาร์ร่า มันก็เป็นคนอย่างนี้แหละ เอาเป็นว่าแกคอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นหมอนั่นอัดแกเต็มแรงชัวร์-" ซัวเรซ ปิดท้ายถึง คาร์ราเกอร์ นอกจากนี้ คาร์ราเกอร์ ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นแบบเต็มที่ในวันที่มีเกมการแข่งขัน
สิ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันได้ดีคือเขาไม่เคยบ่นแม้แต่ครั้งเดียวกับการที่ตัวเองโดนผู้จัดการทีมขอให้ช่วยเล่นในหลายๆ ตำแหน่ง ตลอดช่วง 8 ฤดูกาลแรกของตัวเองกับทีมชุดใหญ่และเขาก็แทบไม่เคยทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะรับบทบาท ฟูลแบ็กซ้าย-ขวา กองหลังตัวกลาง หรือแม้กระทั่งเป็นมิดฟิลด์
มันเป็นเรื่องปกติที่กองหลังชั้นนำต้องเริ่มอาชีพค้าแข้งด้วยการมาเล่นในพื้นที่ที่สูงกว่าขอบเขตของผู้เล่นในตำแหน่งแนวรับ บรรดาโค้ชทีมระดับเยาวชนมักจะจับนักเตะที่เก่งที่สุดของทีมมาเล่นในพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่อเกมมากที่สุด และพอพวกเขาได้เล่นเกมระดับทีมชุดใหญ่ในฐานะนักเตะอาชีพ พวกเขาก็จะถูกโยกไปรับบทบาทที่เหมาะกับจุดเด่นของตัวเอง
เขาเป็นคนที่กระตือรือร้นมาก เป็นกองหลังสารพัดประโยชน์ที่มีเรี่ยวแรงล้นปรี่ และมีวินัยสุดๆ ตอนลงซ้อมที่ เมลวู้ด คาร์ร่า ตั้งมาตรฐานไว้สูง เขาต้องการให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนทำให้ได้ในระดับเดียวกับตัวเอง
คาร์ราเกอร์ จะเข้าสกัดใส่เพื่อนร่วมทีมแบบดุเดือด, วิ่งด้วยความมุ่งมั่นประหนึ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซ้อมแบบจริงจังเหมือนกับว่าชีวิตเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ตอนซ้อม ถ้าหากเขาเจอคนที่ไม่สามารถทำผลงานได้ในระดับเดียวกับเขา คาร์ร่า จะเดินเข้าไปพูดแบบซึ่งๆ หน้า โดยหลายครั้งเรื่องมันบานปลายจนทำให้เกิดการทะเลาะกันบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ คาร์ราเกอร์ ทำก็เพราะเขาต้องการให้เพื่อนๆ เล่นด้วยความพยายามแค่เท่านั้น
"เราไม่เคยทะเลาะกันทั้งในและนอกสนามเลย" หลุยส์ ซัวเรซ กล่าวถึง คาร์ราเกอร์ ในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองเมื่อปี 2014 "แต่ผมก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อทำความคุ้นเคยกับการซ้อมของเขา ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยซ้อมโดยที่ต้องใส่สนับแข้งเพื่อกันเหนียวเอาไว้มาก่อนเลย และผมก็พูดกับตัวเองว่า -คนเป็นเพื่อนร่วมทีมกันมาสกัดแบบนั้นในการซ้อมได้ยังไงวะ มันอาจจะทำให้ฉันเจ็บได้ง่ายๆ เลยไม่ใช่รึไงกัน ?-"
"นักเตะคนอื่นๆ พูดกับผมว่า -คาร์ร่า มันก็เป็นคนอย่างนี้แหละ เอาเป็นว่าแกคอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นหมอนั่นอัดแกเต็มแรงชัวร์-" ซัวเรซ ปิดท้ายถึง คาร์ราเกอร์ นอกจากนี้ คาร์ราเกอร์ ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นแบบเต็มที่ในวันที่มีเกมการแข่งขัน
สิ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันได้ดีคือเขาไม่เคยบ่นแม้แต่ครั้งเดียวกับการที่ตัวเองโดนผู้จัดการทีมขอให้ช่วยเล่นในหลายๆ ตำแหน่ง ตลอดช่วง 8 ฤดูกาลแรกของตัวเองกับทีมชุดใหญ่และเขาก็แทบไม่เคยทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะรับบทบาท ฟูลแบ็กซ้าย-ขวา กองหลังตัวกลาง หรือแม้กระทั่งเป็นมิดฟิลด์
มันเป็นเรื่องปกติที่กองหลังชั้นนำต้องเริ่มอาชีพค้าแข้งด้วยการมาเล่นในพื้นที่ที่สูงกว่าขอบเขตของผู้เล่นในตำแหน่งแนวรับ บรรดาโค้ชทีมระดับเยาวชนมักจะจับนักเตะที่เก่งที่สุดของทีมมาเล่นในพื้นที่ที่มีอิทธิพลต่อเกมมากที่สุด และพอพวกเขาได้เล่นเกมระดับทีมชุดใหญ่ในฐานะนักเตะอาชีพ พวกเขาก็จะถูกโยกไปรับบทบาทที่เหมาะกับจุดเด่นของตัวเอง
ติดตามข่าวสารได้ที่ mosantimetre.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น