ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น
แอตเลติโก มาดริด แสดงให้เห็นว่าความวิตกที่เกิดขึ้นหลังทราบผลการจับสลากประกบคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้นเป็นไปตามนั้นจริงๆ แฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนบ่นว่าไม่อยากเจอทีมตราหมี ถ้าเลือกได้สู้ชน เรอัล มาดริด ไปเลยดีกว่า
ไม่ใช่ว่า แอต.มาดริด เก่งกว่า เรอัล มาดริด หรอกครับ แต่ความรู้สึกที่มีต่อพวกเขาคือเป็นทีมที่เล่นด้วยยาก ชนะยาก หรืออย่างน้อยก็นึกภาพไม่ออกว่าทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ จะแพ้ใครเละเทะแบบที่โดนยิง 3-4 ลูก
ภาพจำของพวกเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ เรารู้ว่า แอต.มาดริด ไม่ได้เก่งกว่า เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยูเวนตุส หรือ บาเยิร์น มิวนิค หรอก แต่ทีมนี้น่าอึดอัด รับมือยาก
เจอทีมอื่นเหล่านั้นเหมือนเจอมวยบู๊ วัดกันด้วยการปักหลักแลกหมัด แต่กับ แอต.มาดริด คือมวยบุ๋น รอบจัด มีชั้นเชิง การ์ดแน่น เอาตัวรอดเก่ง ต้องเหนื่อยเดินรุกไล่เข้าหา
กับทีมใหญ่ทั้งหลายยังมีความรู้สึกว่าถึงเราจะถูกยิงแต่ก็น่าจะยิงเขาได้เหมือนกัน แต่กับ แอต.มาดริด ความมั่นใจที่ว่าจะทำประตูได้แน่ๆ นั้นหายไปกว่าครึ่ง
เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขาแพรวพราวด้วยประสบการณ์ของกุนซือและนักเตะ แถมยังเป็นทีมที่นักเตะเล่นเพื่อโค้ช ฟังโค้ช รวมพลังกันเป็นหนึ่งเพื่อกุนซือที่คุมทุกอย่างอยู่หมัด
ถ้าลิเวอร์พูลมี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ แอต.มาดริดก็มี เอล โชโล่ เป็นที่พึ่งอันอบอุ่น ทุกคนรู้ว่าภายใต้ปีกของชายคนนี้เราปลอดภัย
แล้วซิเมโอเน่ก็ทำให้เห็นจริงๆ ว่าไอ้ที่เดอะค็อปหลายคนกังวลกันนั้นมันใช่และถูกต้องแล้ว ทีมของเขานี่แหละเล่นด้วยแล้วอึดอัดที่สุด
คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ก่อนเตะว่าการเล่นกับนอริชในวันเสาร์ก่อนแข่งที่มาดริดแค่ 3 วันนั้นไม่มีผลอะไรในเรื่องความฟิต ตรงกันข้ามกลับเป็นเรื่องดีเสียอีกเพราะมองในแง่ของระบบและรายละเอียดการเล่นแล้วมีหลายจุดที่ทั้งสองทีมเหมือนกัน
ในความหมายของคล็อปป์น่าจะหมายถึงวิธีการเล่นของทั้งคู่ที่ไม่เตะทิ้งโฉ่งฉ่าง เน้นการต่อบอลบนพื้น ฉะนั้นการเจอกับทีมนกขมิ้นก่อนวัดกับตราหมีจึงเท่ากับได้ลองทีมกลายๆ
เพียงแต่คล็อปป์ทิ้งท้ายเอาไว้ประมาณว่าแต่เทียบกันแล้วนักเตะตราหมีก็เหมือนมวยอีกพิกัด หนักกว่า ดุดันกว่า ประสบการณ์สูงกว่า เขี้ยวลากดินกว่า คุณภาพของนักเตะรายตัวดีกว่า
ไม่ใช่ว่า แอต.มาดริด เก่งกว่า เรอัล มาดริด หรอกครับ แต่ความรู้สึกที่มีต่อพวกเขาคือเป็นทีมที่เล่นด้วยยาก ชนะยาก หรืออย่างน้อยก็นึกภาพไม่ออกว่าทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ จะแพ้ใครเละเทะแบบที่โดนยิง 3-4 ลูก
ภาพจำของพวกเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ เรารู้ว่า แอต.มาดริด ไม่ได้เก่งกว่า เรอัล มาดริด บาร์เซโลน่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยูเวนตุส หรือ บาเยิร์น มิวนิค หรอก แต่ทีมนี้น่าอึดอัด รับมือยาก
เจอทีมอื่นเหล่านั้นเหมือนเจอมวยบู๊ วัดกันด้วยการปักหลักแลกหมัด แต่กับ แอต.มาดริด คือมวยบุ๋น รอบจัด มีชั้นเชิง การ์ดแน่น เอาตัวรอดเก่ง ต้องเหนื่อยเดินรุกไล่เข้าหา
กับทีมใหญ่ทั้งหลายยังมีความรู้สึกว่าถึงเราจะถูกยิงแต่ก็น่าจะยิงเขาได้เหมือนกัน แต่กับ แอต.มาดริด ความมั่นใจที่ว่าจะทำประตูได้แน่ๆ นั้นหายไปกว่าครึ่ง
เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขาแพรวพราวด้วยประสบการณ์ของกุนซือและนักเตะ แถมยังเป็นทีมที่นักเตะเล่นเพื่อโค้ช ฟังโค้ช รวมพลังกันเป็นหนึ่งเพื่อกุนซือที่คุมทุกอย่างอยู่หมัด
ถ้าลิเวอร์พูลมี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ แอต.มาดริดก็มี เอล โชโล่ เป็นที่พึ่งอันอบอุ่น ทุกคนรู้ว่าภายใต้ปีกของชายคนนี้เราปลอดภัย
แล้วซิเมโอเน่ก็ทำให้เห็นจริงๆ ว่าไอ้ที่เดอะค็อปหลายคนกังวลกันนั้นมันใช่และถูกต้องแล้ว ทีมของเขานี่แหละเล่นด้วยแล้วอึดอัดที่สุด
คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ก่อนเตะว่าการเล่นกับนอริชในวันเสาร์ก่อนแข่งที่มาดริดแค่ 3 วันนั้นไม่มีผลอะไรในเรื่องความฟิต ตรงกันข้ามกลับเป็นเรื่องดีเสียอีกเพราะมองในแง่ของระบบและรายละเอียดการเล่นแล้วมีหลายจุดที่ทั้งสองทีมเหมือนกัน
ในความหมายของคล็อปป์น่าจะหมายถึงวิธีการเล่นของทั้งคู่ที่ไม่เตะทิ้งโฉ่งฉ่าง เน้นการต่อบอลบนพื้น ฉะนั้นการเจอกับทีมนกขมิ้นก่อนวัดกับตราหมีจึงเท่ากับได้ลองทีมกลายๆ
เพียงแต่คล็อปป์ทิ้งท้ายเอาไว้ประมาณว่าแต่เทียบกันแล้วนักเตะตราหมีก็เหมือนมวยอีกพิกัด หนักกว่า ดุดันกว่า ประสบการณ์สูงกว่า เขี้ยวลากดินกว่า คุณภาพของนักเตะรายตัวดีกว่า
ติดตามข่าวสารได้ที่ mobemarketplace.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น