สัญชาตญาณของกองหน้า
ปาทริซ เอวร่า, แอชลี่ย์ โคล และ โซล แคมป์เบลล์ ต่างเป็นตัวอย่างของกองหลังที่เริ่มสร้างชื่อจากการเป็นกองหน้า จริงอยู่ว่าหากดูเผินๆ คาร์ราเกอร์ ไม่น่าจะเคยเป็นแนวรุกตอนที่ยังเป็นผู้เล่นเยาวชน
หากคุณคิดเช่นนั้น คุณคิดผิดครับ คาร์ราเกอร์ เคยเล่นเป็นกองหน้าเหมือนกัน และสัญชาตญาณของกองหน้าก็ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความสำคัญมากในเกมพรีเมียร์ลีกที่เขาได้เป็นตัวจริงนัดแรก
เกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 1997 คาร์ราเกอร์ โหม่งประตูต่อหน้า เดอะ ค็อป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 3-0 ซึ่งนั่นก็เป็นประตูแรกของเขาจากทั้งหมด 5 ประตูที่ทำได้ตลอด 737 เกมที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล
หนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต คาร์ราเกอร์ เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ ราฟา เบนิเตซ ถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล ตอนซัมเมอร์ปี 2004
คาร์ราเกอร์ ปรับตัวเข้ากับตำแหน่งที่ดูจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ราฟา สร้างหนึ่งในแนวรับที่ดุดันที่สุดของยุโรปขึ้นมา ด้วยการใช้งาน คาร์ร่า มาเป็นปราการหลังตัวกลาง
"เขามักพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองเสมอ และเรียนรู้ในสิ่งที่ต่างออกไป" ราฟา กล่าวยกย่อง คาร์ราเกอร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็กที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง โดย เจอร์ราร์ด เผยว่า คาร์ราเกอร์ สามารถเทียบชั้นกับ จอห์น เทอร์รี่, อเลสซานโดร เนสต้า ตอนช่วงพีกๆ ได้เลย
ความแข็งแกร่งเรื่องเกมรับของ คาร์ราเกอร์ กลายเป็นรากฐานของ ลิเวอร์พูล เป็นเวลาหลายปี ฤดูกาล 2008/09 ทีมแพ้แค่ 2 นัดและเบียดลุ้นแชมป์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสี ทั้งที่ "ปีศาจแดง" ชุดนั้นมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ คาร์ลอส เตเวซ
ปีนั้นคือปีที่ คาร์ราเกอร์ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นแชมป์ลีกมากที่สุด เขาคือหนึ่งในคีย์แมนของทีมที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 7 รายการ ตลอดระยะเวลาที่เขาเล่นกับ ลิเวอร์พูล
ในฐานะ ฟูลแบ็ก เขาช่วยพา "หงส์แดง" ยุค เชราร์ด อุลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 2001 และอีก 4 ปีต่อมา ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็กก็พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยุโรป สมัยที่ 5 มาครอง
หลายคนจดจำเกมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ว่าเป็นเกมที่ เจอร์ราร์ด ทำผลงานได้โดดเด่น แต่ที่จริงแล้ววันนั้นอีกหนึ่งคนที่เล่นดีไม่แพ้กันก็คือ คาร์ราเกอร์
คาร์ร่า ใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดในค่ำคืน อิสตันบูล หลังจากตอนพักครึ่งมีการเปลี่ยนแผนให้เขามายืนฝั่งขวาของระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก เขาก็เริ่มไล่กดดัน แซร์จินโญ่ วิงแบ็กแซมบ้าของ เอซี มิลาน อย่างไม่ลดละ
หากคุณคิดเช่นนั้น คุณคิดผิดครับ คาร์ราเกอร์ เคยเล่นเป็นกองหน้าเหมือนกัน และสัญชาตญาณของกองหน้าก็ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความสำคัญมากในเกมพรีเมียร์ลีกที่เขาได้เป็นตัวจริงนัดแรก
เกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 1997 คาร์ราเกอร์ โหม่งประตูต่อหน้า เดอะ ค็อป ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 3-0 ซึ่งนั่นก็เป็นประตูแรกของเขาจากทั้งหมด 5 ประตูที่ทำได้ตลอด 737 เกมที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล
หนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต คาร์ราเกอร์ เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ ราฟา เบนิเตซ ถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล ตอนซัมเมอร์ปี 2004
คาร์ราเกอร์ ปรับตัวเข้ากับตำแหน่งที่ดูจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ราฟา สร้างหนึ่งในแนวรับที่ดุดันที่สุดของยุโรปขึ้นมา ด้วยการใช้งาน คาร์ร่า มาเป็นปราการหลังตัวกลาง
"เขามักพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเองเสมอ และเรียนรู้ในสิ่งที่ต่างออกไป" ราฟา กล่าวยกย่อง คาร์ราเกอร์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็กที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง โดย เจอร์ราร์ด เผยว่า คาร์ราเกอร์ สามารถเทียบชั้นกับ จอห์น เทอร์รี่, อเลสซานโดร เนสต้า ตอนช่วงพีกๆ ได้เลย
ความแข็งแกร่งเรื่องเกมรับของ คาร์ราเกอร์ กลายเป็นรากฐานของ ลิเวอร์พูล เป็นเวลาหลายปี ฤดูกาล 2008/09 ทีมแพ้แค่ 2 นัดและเบียดลุ้นแชมป์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสี ทั้งที่ "ปีศาจแดง" ชุดนั้นมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ คาร์ลอส เตเวซ
ปีนั้นคือปีที่ คาร์ราเกอร์ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล มีลุ้นแชมป์ลีกมากที่สุด เขาคือหนึ่งในคีย์แมนของทีมที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 7 รายการ ตลอดระยะเวลาที่เขาเล่นกับ ลิเวอร์พูล
ในฐานะ ฟูลแบ็ก เขาช่วยพา "หงส์แดง" ยุค เชราร์ด อุลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 2001 และอีก 4 ปีต่อมา ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็กก็พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยุโรป สมัยที่ 5 มาครอง
หลายคนจดจำเกมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ว่าเป็นเกมที่ เจอร์ราร์ด ทำผลงานได้โดดเด่น แต่ที่จริงแล้ววันนั้นอีกหนึ่งคนที่เล่นดีไม่แพ้กันก็คือ คาร์ราเกอร์
คาร์ร่า ใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดในค่ำคืน อิสตันบูล หลังจากตอนพักครึ่งมีการเปลี่ยนแผนให้เขามายืนฝั่งขวาของระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก เขาก็เริ่มไล่กดดัน แซร์จินโญ่ วิงแบ็กแซมบ้าของ เอซี มิลาน อย่างไม่ลดละ
ติดตามข่าวสารได้ที่ mutexed.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น