การให้โอกาสของโจเซ่ มูรินโญ่

อย่างที่เราทราบกัน ด้วยการให้โอกาสของโจเซ่ มูรินโญ่ที่อยากจะเก็บรักษาคาร์ริคเอาไว้ให้เป็นสมบัติล้ำค่าของสโมสรในระยะยาว เป็นเสมือนคัมภีร์ของความสำเร็จให้แก่เด็กๆนักเตะรุ่นหลัง

ในบทบาทของนักเตะ คาร์ริคคุมงานกลางสนามบอลในตำแหน่งDLP (Deeplying Playmaker) เป็นตำแหน่งที่แทบไม่เคยได้ขึ้นพาดหัวข่าวกับเขาเลยเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น ซึ่งคาร์ริคนั้นเยือกเย็นและนิ่งมากในการเล่นของเขา ซึ่งคุณจะประทับใจทุกครั้งที่เห็นเขาเล่นด้วยตาตัวเอง มากกว่าแค่คำบอกเล่าต่างๆเหล่านี้

ซึ่งสไตล์การเล่นที่ว่านี้ของคาร์ริคเอง ก็มีนักเตะแบบนี้ที่โด่งดังและได้รับการยกย่องอย่างมหาศาลแบบ ชาบี้อลอนโซ่เอง หรือแม้กระทั่ง ชาบี้แห่งบาร์เซโลน่าก็ตาม นักเตะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นระดับสุดยอดแล้วในยุโรป ทำให้สมัยนี้ก็มีดาวรุ่งพรสวรรค์ของอังกฤษหลายๆคนที่ชอบเล่นฟุตบอลในตำแหน่งควบคุมจังหวะสไตล์นี้ ตามรอยไอดอลเหล่านี้ไป

"ฟุตบอลอังกฤษนั้นยากมากเลยผู้คนจะชื่นชมคนทำหน้าที่เป็นตัวปิดทองหลังพระแล้วทำให้ทีมเล่นได้เข้าขากัน ซึ่งตัวอย่างเช่นไมเคิล คาร์ริคนั่นแหละที่เป็นคนทำให้เพื่อนรอบข้างสามารถเล่นได้ง่ายเช่นนั้น"

การมีคู่หูระดับ Paul Scholes, Darren Fletcher และกระทั่ง Wayne Rooneyเองก็ตามในตำแหน่งกองกลางนั้น คาร์ริคมักจะอยู่ในสถานะไลน์อัพแกนหลักที่ลงไปแล้วให้ความแน่นอนในการครองบอลเสมอ เขาได้กลายเป็น"กระดูกสันหลัง"ของทีมในยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตลอดยุคหลังของพรีเมียร์ลีกในฐานะนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดกับยูไนเต็ดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา


คาร์ริคฝังรากลึกกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาและระบบของสโมสรที่ให้ความสำคัญกับภาคการครองบอล รวมถึงจิตใจที่มุ่งมั่นจะเอาชนะให้ได้ .. ทัศนคติเหล่านี้แหละจึงทำให้เขาสามารถเข้ากับได้ดีและเคมีตรงกันกับโจเซ่ มูรินโญ่อยู่พอสมควร

ปัจจุบันนี้คาร์ริคเป็นผู้ช่วยของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ดูแลและโค้ชชิ่งนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ในทีมอยู่ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มเยี่ยมๆของเฟร็ด วิธีการเล่นของแม็คโทมิเนย์ และการพัฒนาสกิลของมาติชเพิ่มขึ้นมาในการเล่นเกมรุกซึ่งขณะนี้กำลังซ้อมเพิ่มในสิ่งที่ว่าอยู่

ความอาวุโสในห้องแต่งตัวของยูไนเต็ด การคุ้นเคยระบบและวัฒนธรรมของสโมสร และความสามารถในการถ่ายทอดวิชาให้แก่เด็กๆรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นสมบัติของสโมสรต่อไปในอนาคตนั้น สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงความสำคัญของชายผู้นี้ต่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เป็นอย่างดี

การย้ายเข้ามาของเขาแค่คนเดียวแต่ทำให้แมนยูเปลี่ยนเป็นทีมที่แข็งแกร่งและแน่นอนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และต่อกรกับฟุตบอลยุคใหม่ในสมัยนั้นได้อีกครั้ง(2006-2008 ) หลังจากที่ปีศาจแดงเสียแชมป์ไปให้อริรายใหม่จากแดนฝอยทอง

พวกเราก็กลับมาทวงความยิ่งใหญ่แบบnever dieกันสำเร็จ โดยมีนักเตะผู้นี้เป็นกุญแจสำคัญ จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในยุคนั้น ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์กระจุยกระจายอย่างที่เห็น

ไม่ว่าแฟนผีจะเคยเรียกเขาด้วยสมญานามใด ไม่ว่าจะเป็นมิดฟิลด์ไก่ป่วย(ก่อนจะย้ายมาแล้วโดนตั้งคำถามว่าดีพอหรือ?), เฮียลูกเจี๊ยบจากไดอารี่แมนยู, เฮียแปะ, ปลัดคาริค ของดีของวิเศษประจำทีม ...จะอะไรก็แล้วแต่ เขานี่แหละ คือเครื่องจักรคุมจังหวะที่ทำงานอย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอย แต่มั่นคงและคมกริบอย่างถึงที่สุด

มิดฟิลด์ฝีเท้าเยี่ยมของยูไนเต็ดผู้เคยเฉียดกรายจะได้ใส่เสื้อเบอร์7ในตำนาน ชายผู้underratedตลอดกาลในสายตาแฟนทีมอื่น แต่สำหรับแฟนผีเขาคือนักเตะที่แน่นอนที่สุดคนนึง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021