มติในการประชุม

เป็นที่ชัดเจนว่า มติในการประชุมล่าสุดของ 20 ทีมพรีเมียร์ลีกคือ ต้องการให้ฤดูกาลนี้ "จบ" ให้ได้ แม้จะไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะจบได้เมื่อไหร่และวิธีไหน

ในการประชุมวาระพิเศษเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา สโมสรพรีเมียร์ลีกได้ประชุมร่วมกันก่อนได้มติสำคัญคือ เริ่มกลับมาแข่งอีกครั้งอย่างเร็วสุดในวันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน จากที่ตอนแรกระงับถึงวันศุกร์ที่ 3 เม.ย. นี้

แถลงการณ์ของพรีเมียร์ลีกเป็นดังนี้ "สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, พรีเมียร์ลีก, อีเอฟแอล, ลีกฟุตบอลอาชีพหญิง, พีเอฟเอ และ แอลเอ็มเอ ได้หาแนวทางร่วมกันเพื่อแข่งขันให้จบฤดูกาล 2019/20 ด้วยความปลอดภัยและความเป็นไปได้ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19"

"ตามกฎของ เอฟเอ ระบุไว้ว่า ฤดูกาลจะต้องจบไม่เกินวันที่ 1 มิถุนายน อย่างไรก็ตาม บอร์ดบริหารเอฟเอ เข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันและตกลงที่จะขยายเวลาสำหรับฤดูกาล 2019/20 โดยเห็นตรงกันว่าการแข่งขันระดับอาชีพในอังกฤษจะมีการเลื่อนออกไปอีกจนถึงวันที่ 30 เมษายนเป็นอย่างน้อย"


สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ใหม่ที่ทั่วโลกต้องปรับตัวตามทั้งหมดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตเป็นสำคัญ พรีเมียร์ลีกเลื่อนเวลากลับมาแข่งอีกรอบจากเดิมต้นเดือนเมษายนไปเป็นสิ้นเดือนเมษายนก็เพื่อความหวังที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสจะทุเลาลงและสามารถแข่งกันได้อีกเพื่อให้ฤดูกาลจบให้ได้

ความตั้งใจของพรีเมียร์ลีกที่ต้องการจบฤดูกาลถือว่าสำคัญ ส่วนปัญหาอื่นในมิติที่เกี่ยวกับฟุตบอลที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ก็ว่ากันไปทีละอย่าง แก้ไปทีละจุด และยืดหยุ่นตามสถานการณ์

พรีเมียร์ลีกยืนยันชัดเจนว่า "ไม่มีกำหนด" วันเวลาว่าต้องจบภายในวันนั้นวันนี้ แม้ยูฟ่าจะให้แนวทางมาว่าต้องการให้จบภายในวันที่ 30 มิถุนายนก็ตาม

ดังนั้นโอกาสที่ฤดูกาลนี้จะเป็น "โมฆะ" ถูกยกเลิกไปเลยตามความต้องการของบางคนจึงแทบไม่มี เว้นแต่ว่าสถานการณ์ของโควิด-19 เลวร้ายถึงขีดสุด

สโมสรในพรีเมียร์ลีกและเอฟเอพร้อมจะพูดคุยกันตลอดเวลาอยู่แล้ว (ผ่านช่องทางเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้รวมตัวประชุม) เพื่อมีมติและแนวทางร่วมกันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญและเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด

แต่ในมติล่าสุด ณ ตอนนี้คือ ต้องการให้จบให้ได้แม้การแข่งขันอาจลากยาวไปถึงกรกฎาคมก็ตาม เรื่องที่จะต้องหาโอกาสคุยกันต่อจากนี้ก็คือ ถ้าแข่งต่อในสถานการณ์ที่ไม่สามารถให้แฟนบอลเข้าชมเกมได้จะทำอย่างไร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021