สิ่งที่ค้างอยู่ในหัว

ชัยชนะเพียงประตูเดียวเหนือนิวคาสเซิ่ล ไม่ได้ทำให้แฟนบอลอาร์เซน่อลได้เฮสุด เหวี่ยงอย่างที่ควรจะเป็นมากนัก แต่สิ่งสำคัญคือการกลับมาชนะอีกครั้ง

อาร์แซน เวนเกอร์ กล่าวเอาไว้ก่อนเกมว่า แข้งปืนเหมือนมีฝันร้ายตามหลอกหลอน หลังพ่ายคาบ้านแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมที่พับสนามบุกฝ่ายเดียว กุนซือปืนโตยอมรับการที่คุมเกมรุกไว้ได้หมด และหาโอกาสอีกไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้ง ทว่าลงเอยด้วยการแพ้ถึง 1-3 กระทบต่อจิตใจผู้เล่นในทีมอย่างมาก

ขนาดในวันที่ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ เดินหน้าลุยจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ก็ยังแพ้ได้ แล้ววันอื่นจะไปคาดหวังอะไรอีก เวนเกอร์เข้าใจดีว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาในก้าวผ่าน และทางที่ดีที่สุดคือการกลับมาชนะให้ได้อีกครั้ง เป็นวิธีง่ายๆ แต่ทำจริงไม่ง่าย 2 นัดหลังเกมกับผีแดง อาร์เซน่อลได้เพียงเสมอทั้งที่เซาธ์แฮมป์ตันและเวสต์แฮม และยิงได้เพียงประตูเดียวจากลูกโขกของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ''มันยังคงรบกวนจิตใจ จำเป็นต้องลบมันทิ้งจากความคิดให้ได้ เมื่อมีโอกาสมากมายอย่างที่เรามี และจบเกมโดยไม่มีคะแนน มันยากที่จะลืมเลือน'' royalstoneind.com ''ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือโยนมันทิ้งไว้ข้างหลัง และมุ่งมั่นไปที่ฟอร์มการเล่นของเราในสนาม'' เวนเกอร์ ว่าเอาไว้ อาร์เซน่อลยุคนี้ไม่ใช่ทีมที่จิตใจเข้มแข็ง หรือถอดหัวใจสู้แบบในอดีตพวก ปาทริค วิเอร่า, มาร์ติน คีโอว์น ฯลฯ เมื่อมีอะไรเข้ามากระทบนิดหน่อยก็ส่งผลต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเวนเกอร์เองก็ไม่สามารถกระตุ้นอะไรได้มากนัก ประตูเดียวของเกมนี้่มาจากลูกวอลเลย์ของ เมซุต โอซิล เราจึงได้เห็นในหลายต่อหลายนัดที่พวกเขาทำได้เพียงเอาตัวรอดไปแบบผ่านๆ บางครั้งก็กระเสือกกระสนดิ้นรนแบบไม่จำเป็น ในเกมที่เจอนิวคาสเซิ่ล ควรเป็นเกมที่เรียกความมั่นใจให้ได้มากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงเฉือนชนะแบบทำให้แฟนต้องเสียวไส้อีกครั้ง สาลิกาของ ราฟา เบนิเตซ อยู่ในช่วงย่ำแย่ ก่อนลงสนามที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็เก็บได้เพียงคะแนนเดียวจาก 8 นัดหลังสุด ฟอร์มที่เคยขึ้นไปถึงท็อปโฟร์ก่อนหน้านี้แทบไม่เหลือให้เห็น กองหลังเสียประตูง่าย และอดีตกุนซือแชมป์ยุโรปกับลิเวอร์พูลก็หาทางแก้ไม่ได้

royalstoneind.com

ราฟากระแซะเบาๆ ถึงบอร์ดบริหารว่า ยังไงก็ต้องเสริมทัพในตลาดเดือนมกราคม ไม่งั้นมีโอกาสตกชั้นแน่ นั่นบ่งบอกได้อย่างดีว่า เขาก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไรแล้วกับนักเตะชุดนี้ เค้นแล้วเค้นอีกก็หาฟอร์มเก่งที่เคยมีไม่เจอ

เทรนเนอร์หน้าหนวดเคยบ่นพึมพำตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์แล้วว่า ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีมากพอในการเสริมทัพ เพราะเขาประเมินได้อยู่แล้วว่า ภารกิจในพรีเมียร์ลีกยุ่งยากซ้ำซ้อนกว่าแชมเปี้ยนชิพหลายเท่านัก ทีมขนาดนี้เป็นแชมป์ลีกรองได้ก็จริง แต่ขึ้นมาลีกสูงสุดก็มีสภาพไม่ต่างจากกลุ่มปลายแถว ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นให้ได้เป็นอันดับแรก

กลับมาที่อาร์เซน่อล มีจุดน่าสนใจตั้งแต่ไลน์อัพแรกที่กลับมาเล่นแบ็กโฟร์อีกรอบ ทั้งเกมกับขุนค้อนและเกมนี้ แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ ที่ได้เล่นแทน ชโคดราน มุสตาฟี่ ไม่ใช่คำตอบที่ใช่ เพราะช้าเกินไปแล้วกับการเจอคู่แข่งที่คอยตัดเกมบอลและโต้เร็ว อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ เล่นไม่ครบ 90 นาทีอีกนัด ในเกมกับนักบุญก็จ่ายพลาด และลิ้มกลิ้งไม่เป็นท่าในจังหวะที่เสียประตูแรกให้เจ้าถิ่นจากการหลุดไปยิงของ ชาร์ลี ออสติน กลายเป็นว่า เมื่อ 3 ตัวหลักอย่าง โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, ชโคดราน มุสตาฟี่ และ นาโช่ มอนเรอัล ไม่พร้อมลงทั้งหมด เวนเกอร์ก็ไม่มีอะไหล่ที่ใช้งานได้เลย  แมร์เตซัคเคอร์ไม่เวิร์ก ขณะที่ คาลั่ม แชมเบอร์ส กับ ร็อบ โฮลดิ้ง ก็วางใจไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสวิตช์กลับไปเล่นแบ็กโฟร์อีกครั้ง และเลือกใช้กอสซิแอลนี่ จับคู่กับมอนเรอัล โดยมีแชมเบอร์สเป็นสำรองข้างสนาม นี่คือปัญหาคาราคาซังของอาร์เซน่อล ที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เวนเกอร์กำลังคิดอะไรอยู่ ดูเผินๆ เหมือนมีขุมกำลังที่ใหญ่มาก สามารถแบ่งอีกชุด 11 ตำแหน่ง ลงเล่นในยูโรปา ลีก กับลีก คัพ แต่เมื่อเป็นเกมจริงจังที่ต้องการขุมกำลังสำรองยามตัวหลักขาดหายกลับไม่มี  ในแนวรุกยังพอถูไถมี ชิรูด์, เวลเบ็ค, วิลเชียร์ และวัลค็อตต์ ด้วยอีกคนก็ได้ แต่แนวรับยังมีความห่างชั้นกันอยู่ระหว่างตัวจริงกับสำรอง มีแต่ปริมาณ แต่ขาดคุณภาพ นั่นทำให้อาร์เซน่อลไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์ตั้งแต่แรก เพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการเป็นผู้ชนะ เวนเกอร์ออกลูกกั๊ก คิดบวกเกินไป ทำให้เลือกเก็บนักเตะหลายต่อหลายคนที่คิดว่า ''คงดีขึ้น'' เอาไว้ ซึ่งนักเตะเหล่านี้คงไม่มีที่ยืนในทีมแน่ หากเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีม แนวคิดตรงนี้ต่างกัน ผลลัพธ์ก็คงไม่มีทางเหมือนกัน  อเล็กซิส ซานเชซ ใกล้หมดสัญญาเข้าไปทุกที สามกองหลังตัวหลักเล่นร่วมกันได้ดี แต่ลงถี่ๆ ก็ล้าได้เหมือนกัน และเกิดความผิดพลาด จำเป็นตัวมีตัวคอยสลับสับเปลี่ยนที่เหมาะสม เดิมทีระบบของอาร์เซน่อลแข็งแกร่งมาก ส่งใครลงก็ได้ เวนเกอร์วางรากฐานไว้แน่น ขาดใครไปก็ไม่มีปัญหา แต่ยุคนี้ไม่ใช่ ปลายฤดูกาลก่อนปรับจากแบ็กโฟร์มาเป็นหลังสาม แต่ตอนนี้กลับไปแบ็กโฟร์อีกรอบ เพียงเพราะนักเตะบางคนเจ็บ

หากสำรองคุณภาพมากกว่านี้ ก็คงไม่ใช้วิธีนี้แน่ เมื่อหลังบ้านไม่แน่น อาร์เซน่อลจึงพร้อมเสียประตูอยู่ตลอดเวลา  ในวันที่เกมรุกเด็ดขาด ไม่ยิงทิ้งยิงขว้าง ก็สามารถกลบแผลที่หลังได้อยู่ แต่ถ้าเป็นอย่างช่วงหลังเหมือนเกมเจอแมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงลำบากหน่อย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021