เหตุผลคนหาย 'หน้า'

ฟอร์มอาจจะไม่สวยงามอย่างที่หวัง แต่ 3 คะแนนที่ได้มาในนัดล่าสุดก็ถือเป็นเรื่องที่พอจะทำให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ้มออกมาได้ 1-0  คลีน ชีต  3 คะแนน 

ถือว่าไม่น่าเกลียดอะไรกับการกลับมาคว้าชัยหลังจากพ่ายแพ้ใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ อุปสรรคในนัดล่าสุดคงเป็นฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ชนิดที่ยิ่งเล่นยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะ บอร์นมัธ ที่สู้ได้ดีและมีโอกาสจบสกอร์จากหลายจังหวะ

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ ดาบิด เด เคอา โชว์ให้เห็นถึงความหนึบ-ความเหนียวและป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู นักเตะคนอื่นๆ ก็พยายามกันได้อย่างยอดเยี่ยมเพื่อตอบแทนเสียงเชียร์ของแฟนบอลในสนาม แนวรับในแผง 'แบ็กโฟร์' สอดประสานได้ดี คอยช่วยปิดการขึ้นเกมของคู่แข่งโดยเฉพาะแบ็ก 2 ข้างที่วิ่งไล่ตามปีกของ 'เดอะ เชอร์รี่ส์' ตลอดทั้งเกม ซึ่งในนัดล่าสุด ลุค ชอว์ คือคนที่ได้รับคำชมอย่างมากจาก โชเซ่ มูรินโญ่ อนาคตของ ชอว์ อาจจะดูมืดมน หากมองจากมุมมองของสื่อที่พยายามเล่นข่าวว่าแบ็กซ้ายรายนี้ 'น่าจะ' หมดอนาคต และเตรียมเก็บกระเป๋าย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่หากดูจากผลงานที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในสองนัดล่าสุด มันกลับสวนทางกับที่สื่อรายงาน ชอว์ ลงเล่นทำผลงานได้ และ ยังได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของสโมสร หลังจบเกมล่าสุด มูรินโญ่ ก็ออกมาชมถึงพัฒนาการของนักเตะและความมุ่งมั่นที่ส่งออกมาทุกครั้งยามที่ได้รับโอกาสลงเล่น สิ่งที่ว่ามาคือสิ่งที่กุนซือใหญ่ปิศาจแดงพยายามให้ลูกทีมทุกคนแสดงออกมาโดยตลอด "ลุค ทำได้ดีมากและกำลังพัฒนา แต่หลังจากนั้นเขากลับมีอาการตะคริวและมันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องส่ง แอชลี่ย์ ยัง ลงสนามแทน" นั่นคือการเปิดเผยของ มูรินโญ่ ที่ต้องถอดเอา แบ็กซ้ายอย่าง ชอว์ ออกไป เพราะนักเตะวิ่งเยอะมากและเสี่ยงที่จะป็นตะคริว (และเจ็บ) ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ส่งออกมา และมันแสดงให้เห็นว่าอนาคตใน โรงละครแห่งความฝัน ของเขายังคงมีอยู่ แม้ช่วงเวลาที่หายหน้าไปนานจะโดนสื่อรุมทึ้งและตีข่าวในด้านลบอยู่ตลอด ว่ากันถึงเรื่อง 'หายหน้า' สื่ออังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องจับผิดและก่อเชื้อไฟ ได้ถามไปถึงกรณีของ เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ช่วงหลังหายจ๋อย ไม่มีชื่อแม้แต่ในม้านั่งสำรอง แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น คงไม่พ้นมือนักข่าวที่ต้องเอาออกไปขยายความและเล่นข่าวกันอย่างสนุก

puntmagic.com

ข่าวความขัดแย้ง, ย้ายทีม หรือ สลับตัว เริ่มออกมา (อีกครั้ง) ซึ่งทาง มูรินโญ่ ก็ได้อธิบายแบบเรียบเฉยหลังจบเกมนัดล่าสุด "เอ่อ ... ผมสามารถส่งนักเตะเอ้าท์ฟิลด์ลงสนามได้เพียง 6 คนและผมเองก็พยายามที่จะทำให้มันมันมีความสมดุลมากที่สุด" 

"ผมมีกองหลังสองคนอย่าง ดาเล่ย์ บลินด์ ที่สามารถได้หลายตำแหน่ง ผมมี แอชลี่ย์ ยัง ที่สามารถลงสนามในตำแหน่งริมเส้นและแบ็กได้ทั้งหมด" "อันเดร์ เอร์เรร่า เป็นกองกลาง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นกองหน้า

และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เล่นเป็นกองหน้าตัวที่ 2 และปีกให้กับทีม" "และการที่ผมส่ง เจสซี่ ลินการ์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ ฆวน มาต้า ลงสนาม นั่นหมายความว่า มิคกี้ ไม่มีที่ว่างในทีมในนัดล่าสุด ซึ่งในตอนนี้ผมเชื่อว่าคนอื่นสมควรได้โอกาสที่จะเล่น" มันก็แล้วแต่คนจะตีความหมายไปในทิศทางใดก็ได้  อาจจะโดนดร็อปจริงๆตามที่เป็นข่าว อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่ มูรินโญ่ ให้มา หรือ อันนี้แล้วแต่จะคิด อีกรายที่หายหน้าไปนานจนลืมแล้วว่าหน้าตาเป็นเช่นไร 'เอริค ไบยี่' รายนี้ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากเกมทีมชาติ แม้จะกลับมาได้แต่ก็โดนโรคเดี้ยงเล่นงานต่อเนื่องทำให้นักเตะไม่ได้ลงสนามเลยตลอดช่วงที่ผ่านมา ทีแรก อาการบาดเจ็บไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน puntmagic.com แฟนบอลก็คิดกันไปว่าคงไม่หนักหนาอะไรมากและน่าจะกลับมาในเร็ววัน ทว่า ... ล่าสุดกลับมีข่าวไม่สู้ดีนักออกมาจากปาก มูรินโญ่ โชเซ่ มูรินโญ่ ระบุว่าอาการของ ไบยี่ หนักกว่าที่คาดเอาไว้ เพราะทีแรกเป็นแค่อาการเจ็บข้อเท้าธรรมดา แต่ไปๆมาๆ อาจจะต้องถึงมีดหมอเพื่อให้อาการหายขาด"ผมคิดว่าอาการเขาหนักน่าดูเลยล่ะ" "ผมไม่รู้ว่าจะพักนานไปอีกเท่าไหร่ อาการนั้นติดตัวเขามาจากการรับใช้ชาติครั้งล่าสุด เราพยายามรักษาตามวิธีธรรมดา แต่ถ้าหากมันไม่ดีขึ้น บางทีเขาอาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดจากทีมแพทย์ แต่ก็ต้องรอดูอีกสัก 2-3 วัน" ตามการคาดการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาหวังจะใช้เวลารอดูอาการประมาณ 2-3 วัน ถึงจะพิจารณาว่า ไบยี่ จะต้อง 'ผ่า' ข้อเท้าหรือไม่ ความแตกต่างก็คงทราบกันดีในเรื่องของการพักฟื้น แต่มันก็แลกมากับอาการบาดเจ็บที่หายไป ความเสี่ยงในจุดนั้นดูจะไม่ส่งผลกระทบมากเท่าไหร่ เพราะทาง มูรินโญ่ เองก็ดูจะพอใจกับตัวเลือกในแนวรับที่มีอยู่โดยเฉพาะการได้ โจนส์ กลับมาลงสนาม ไหนจะมี คริส สมอลลิ่ง ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงที่ผ่านมา วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่เริ่มปรับตัวและทำได้ดียามที่ได้รับโอกาส มาร์กอส โรโฮ ที่แม้จะบาดเจ็บศีรษะแตกในนัดวันอาทิตย์ แต่อาการก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด รวมไปถึง ดาเล่ย์ บลินด์ ที่พร้อมเป็นอะไหล่ให้กับทีมได้ทุกเมื่อ "ระหว่างฤดูกาล เรามีปัญหาเรื่องกองหลังตัวกลางมาโดยตลอด แต่เพราะเรามีนักเตะ 4 หรือ 5 คน เราจึงจัดการกับมันได้เสมอ และตอนนี้ คริส สมอลลิ่ง กำลังเล่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ตลอดช่วง 7-8 นัดที่ผ่านมา" "ดังนั้นเราไม่มีปัญหา"

คนที่หายหน้าก็ต้องไปเคลียร์ธุระตนเองให้เสร็จสิ้น (ไม่ว่าจะผลงาน, ทัศนคติ หรือ อาการบาดเจ็บ) ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องร่วมแรงมุ่งมั่น และ พยายามผลักดันทีมให้เดินหน้าต่อไป วิถีฟุตบอลก็แบบนี้ เดี๋ยวมา, เดี๋ยวไป แต่สำคัญคือคนที่อยู่และพร้อมรับใช้สโมสรในปัจจุบัน ว่าจะทดแทนและทำหน้าที่เผื่อคนที่ 'หายไป' ได้ดีเพียงใด

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิบากกรรม 'เอบูเอ้'

เด็กหัวฟูกับผู้ใหญ่หน้าเครียด

เมื่อยูโร 2020 กลายเป็นยูโร 2021